Site icon 6 AUGUST JOURNEY

รีวิว ซิดนีย์ (Sydney) 1 วันกับ 10 ที่เที่ยวห้ามพลาด

รีวิว ซิดนีย์ – เคยไหมคะซิสสส จองตั๋วเครื่องบินผิด เมืองที่อยากเที่ยวเยอะๆ กลับทำได้เพียงแค่เที่ยววันเดียว การวางแผนจึงต้องมาค่ะ ถึงจะเที่ยวได้เยอะ เที่ยว ชิม ช็อป จบใน 1 วัน ตามเรามา 6 August Journey จะพาไปเที่ยว One day in ซิดนีย์

งบที่ใช้สำหรับเมืองนี้ และ แผนที่เที่ยว


เตรียมอะไรบ้าง ?


  1. ทำวีซ่าออนไลน์ และ ไปเก็บข้อมูลลายนิ้วมือ รอสัก 2-3 อาทิตย์จะทราบผล
  2. เวลาที่ซิดนีย์เร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง อย่าลืมปรับนาฬิกา
  3. ช่วงที่เราไปเป็น Summer ของที่นี่ พอพระอาทิตย์ตกดินแอบหนาวนะ แบบ 19-25 องศา แต่กลางวันก็ร้อนแหละ
  4. อย่าลืมปลั๊กไฟ Universal Adaptet เพราะเขาไม่เหมือนไทย
  5. เที่ยวครั้งนี้ไม่พกเงินไปเลยค่ะซิสสสไปกดเอาที่สนามบินใช้บัตรเรตดีๆ กดได้หมด
  6. การเดินทางในเมืองเราใช้บริการ Ola (คล้าย Uber และ Grab) บ่อยเพราะเขามีส่วนลดเยอะ พวกรถเมล์ในซิดนีย์สามารถเอาบัตรอะไรก็ได้ที่มีเครื่องหมาย visa ใช้แทนบัตรขึ้นรถ (เราไปวันเดียวซื้อบัตรเกรงว่าจะไม่คุ้ม)
  7. การเดินทางfeel เมืองไทยตรงที่รถเขาขับพวงมาลัยแบบเรา แต่ทุกอย่างดูทันสมัย อากาศดี
  8. อินเตอร์เน็ตแนะนำให้ซื้อ Sim Card แบบ Travel ที่ไทยไปเพราะที่นั้น 30 AUD (700฿) เน็ตแรงได้ 30 GB แต่เราไม่ได้ใช้ขนาดนั้นก็แนะนำให้ซื้อจากไทยจ้า
  9. มาซิดนีย์ครั้งนี้นั่ง Business Class สายการบินไทยจองผ่าน Traveloka (ทางไปจอง) ที่ตอนนี่เราสามารถเช็คอินผ่านแอพพลิเคชั่น Traveloka ได้แล้วค่ะซิสสส ประหยัดเวลาในการขึ้นเครื่องได้เยอะ ขึ้นไปจิบไวน์สบายๆ

 

การเดินทางเริ่มขึ้นแล้ว !!!

ความที่ไฟท์การเดินทางครั้งนี้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมงเลยค่ะซิสสส จึงถือโอกาสนั่งดี กินดี อยู่ดีกับชั้น Business Class ของการบินไทย ไม่งั้นต้องเมื่อยตายแน่ๆ จิบไวน์ ดื่มน้ำส้ม กันได้ทั้งวัน

เมื่อเครื่องถึงที่หมาย โปรดรู้ไว้ว่าปัจจุบันที่สนามบินที่นี่ทุกอย่างแทบเป็นอัตโนมัติหมดแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาพูดคุยกับการตรวจคนเข้าเมือง เพราะข้อมูลของเรา วีซ่าของเราจะถูกบันทึกไว้ในระบบของเขา เขาแค่สแกนพาสปอร์ต และ ถ่ายรูปก็จบ ออกเที่ยวได้

มากันแต่เช้าค่ะซิสสส เลยออกมาหาขอสดทานกันที่ Sydney Fish Market เอาจริงๆคือไปประเทศไหน ถ้าบ้านเขามีตลาดปลาคือต้องแวะให้ได้ อย่างน้อยก็ได้ทานอะไรสดๆ แม้รสชาติอาจจะทำให้เราคิดถึงน้ำจิ้มซีฟู้ด 55+

แต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าตลาดปลาที่นี่ราคาไม่เบา อาจเป็นเพราะค่าครองชีพก็ได้ รสชาติอาหารปรุงสุกก็จะสไตล์ฝรั่ง แต่อร่อยนะ อย่างเราสั่งบาบีคิวกุ้ง หอยเชลล์อบชีส และ กั้งอบชีส ราคารวมๆกันก็ประมาณ 29 AUD (ธันวาคม ปี 2019) หรือ ประมาณ 609 บาทได้

เมื่ออาหารเช้าครั้งนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว เราก็เดินทางมุ่งหน้าเข้าเมืองกันต่อ ช่วงเช้าๆแบบนี้ขอเจาะจงกันที่ Angel Place ซึ่งเป็นจุดที่เราอยากไปถ่ายรูปที่นี่ที่สุด เพราะมันแนวดี โดยเปิด Google Map แล้วนั่งรถเมล์ไปลงย่าน King Street

ถนนย่านนี้สวยมาก เหมือนเดินอยู่ในเมืองย้อนยุค ให้อารมณ์สไตล์ผู้ดีอังกฤษ ท่ามกลางอุณหภูมิ 25 องศาได้ โดยเราก็มุ่งหน้าไปหา Angel Place กันซึ่งเป็นเหมือนซอกตึกแถวๆนั้น

ทำมาเป็นเดินสะบัดกระโปรงเล็กน้อย แต่สวยจริงนะ แบบถ่ายรูปเพลินๆ ก่อนที่จะเดินเล่นไปเรื่อยในถนนเส้นนี้ เพื่อไปถึง Sydney Opera House โดยเดินถึงกันได้หมดนะ ไม่ไกลกันมาก

ก่อนจะไปถึง Sydney Opera House เราเข้ามาตามหามุมลับใน The Rocks กันก่อน ย่านเก่าแก่ แต่มีสเน่ห์ โดยเราแวะดื่มกาแฟบริเวณนี้ อย่างที่บอกว่าเรามาวันเสาร์ ทำให้ได้เจอตลาดเล็กๆของที่นี่ด้วย

และอยู่ในช่วงคริสตมาสพอดีเลย เขาก็แต่งด้วยต้นคริสตมาสเต็มไปหมด บรรยากาศน่ารัก แถมที่ตลาดเขาก็มีการจัดคล้ายๆตลาดอินดี้ ท่ามกลางอากาศคูลๆ แนะนำให้มาเดินเล่นกัน

มาเดิน The Rocks เสร็จก็เดินเล่นริมน้ำ แล้วจะมองเห็น Sydney Opera House แต่ไกล แล้ววันนั้นเป็นวันที่มีเรือสำราญมาลงค่ะซิสสส คือแบบเรือใหญ่มากจนบังวิวมิด แล้วจอดนานด้วยนะ 55+

บริเวณนี้คนเยอะมากเลยนะ เพราะเป็นท่าเรือที่มี 4-5 ท่าในการขึ้น ทำให้ตลอดทางจะมีการแสดง ร้านอาหาร ผู้คนมากมาย ทำให้ถ่ายรูปยากมาก แต่ก็ต้องชิงจังหวะถ่ายมา

ในที่สุดก็มาถึง !!! แชะรูปสักแปบแล้วเราจะไปเที่ยวกันต่อ สั่งสตาบัคจาก The Rocks ท่ามกลางอุณหภูมิ 19 องศา ลืมเล่าไปว่าสตาบัคที่นี่ขนาดแก้วกลางยัง 96 บาทเอง !!!

มองดูข้างหลังเราสิ เห็นคนไหมมากันเพียบ แต่แบบงานดีนะ คือแนะนำให้ลองมานั่งทานอะไรแถวนี้ดู โอ้ยยยย ไม่อยากเมาส์มาก ให้มาสัมผัสด้วยตัวเองดีกว่า

จากนั้นก็เปิด Google Map ค่ะซิสสส นั่งรถเมล์ไปที่ Bondi Beach อีกหนึ่งในแลนด์มาร์คของที่นี่ เวลาเดินทางใน Google Map เหมือนจะนานแต่เอาเข้าจริงคือนั่งแปบเดียวก็ถึง

คือช่วงที่เราไปตรงกับ Weekend พอดีสภาพหาดเลยเป็นแบบนี้ คนมาอาบแดดตรึมเลย สังเกตทะเลที่นี่คลื่นจะแรง ที่นี่เลยเป็นจุดเล่นเซิร์ฟอีกที่ โดยสำหรับใครอยากเรียนก็ติดต่อได้ราคาประมาณ 2-3 พันบาทไทย

แล้วเราก็เดินไปที่ Bondi Icebergs Club ที่เป็นสระน้ำในตำนาน คือเข้าใจแหละว่าทะเลดุ เขาเลยมีสระแบบนี้ให้ว่าย และ อาบแดดกัน โดยที่นี่เขาก็มีพวก Membership ผลตรวจสุขภาพก่อนลงสระ

แต่คนที่นี่ว่ายเยอะมากนะ แบบสระมันก็ใหญ่อยู่แล้ว แต่คนเยอะจนสระดูเล็กไปเลย แต่ชอบโทนสีของสระ และ ทะเลที่สร้างภาพแปลกตาไปอีกแบบ มาถึงจุดนี้ต้องเดินลึกขึ้นไปอีกนะ เพื่อไป Bondi to Bronte Coastal Walk

คือจะเห็นแนวหิน และ วิวที่สามารถเดินไปได้ โดยวิวตรงนี้ถ่ายรูปได้สวยไปอีกแบบ เป็นทุ่งดอกไม้เล็ก และ โขดหิน ที่ข้างหน้าเป็นทะเล ภาพออกมาคูลมาก

การมาเดินเล่นที่นี่มักจะมีผู้คนเข้ามาทักทาย เซย์ฮาย เพราะคนที่นี่อัธยาศัยดี หรือเพราะชุดที่เราใส่ก็ไม่รู้ แต่บอกเลยว่าแถวนี้ก็งานดี หนุ่มๆรักสุขภาพ หล่อล่ำสุดๆ

จาก Bondi Beach เราก็กลับเข้าเมืองอีกครั้ง ตอนแรกว่าจะไปห้องสมุดสายรุ้ง แต่ปิดเลยมุ่งหน้าไปเดินเล่นย่าน Surry Hill โดยบังเอิญ แต่สิ่งที่ค้นพบมีค่ามหาศาลค่ะซิสสส

คือย่านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของ คาเฟ่ ร้านอาหาร และที่ไปบังเอิญค้นพบคือ พบร้านไอศครีมที่อร่อยที่สุดในซิดนีย์ อย่างร้าน Messina ที่ทำให้ย่านนี้โด่งดัง มีไอศครีม 40 รสชาติ ใน 1 scoop จะเต็มไปด้วยวัตถุดิบ

อีกเรื่องของย่านนี้เขามีเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ เอาใจคนอินดี้ขายเยอะ รวมทั้งงานอาร์ต แถมต่อราคาได้ด้วยแนะนำ ส่วนสายปาร์ตี้ ที่นี่ก็มีผับเยอะ แต่เราไม่ได้มานะ ได้ยินชื่อเฉยๆ อิอิ

อีกร้านที่บังเอิญเจอ Mr Crackles ที่คนที่นี่เขานิยมมาทานกัน เขาจะมีหนังหมูก่รอบทอดกรอบที่เป็นตัวชูโรง และมี Big dog ที่ยาวคล้ายฟุตลองบ้านเรา แต่รสชาติอร่อยดี เมื่อกินไปกินมา

ความที่ร้านอยู่ตรงป้ายรถประจำทางค่ะซิสสส เราจะนั่งรถประจำทางเข้าสู่ย่าน King Street & Market Street ความจริงตั้งใจจะกลับไปเดินย่าน The Rocks เลยแวะห้างที่เก่าแก่ในซิดนีย์อย่าง

เดินโฉบเข้าไปเล็กน้อยไปหากระเป๋าแบรนด์นึง เอาเข้าจริงราคาแพงกว่าที่เมืองไทย แม้จะทำเรื่อง tax refund ลืมเล่าว่าที่ออสเตรเลียต้อง Shopping ให้ถึง 300 AUD ต่อร้านแล้วเขาจะออกใบให้ไปยื่นที่สนามบิน

เวลานี้ก็เย็นแล้ว เราเลยไปแวะกันที่สุดท้ายอย่าง Hyde Park ที่ตอนแรกเข้าใจว่าเขาจะมีจัดงานช่วงคริสต์มาส แต่กลับไม่พบอะไร ไปพบวิถีผู้คนแทน

เป็นซิดนีย์ที่น่ารักมาก ใน 1 วันขอจบการรีวิวกันเท่านี้ ถ้ามีโอกาสอีกเราอยากไปใช้เวลากับที่นี่ให้มากกว่านี้ค่ะซิสสส แล้วเราก็ไปกันต่อที่ บริสเบน อีกเมืองน่ารักของออสเตรเลีย

Exit mobile version