Site icon 6 AUGUST JOURNEY

Leh main bazaar (ตลาดเมืองเลห์) | ซื้ออะไร จิบกาแฟ กินเนื้อย่าง เล่นเน็ต จุดไหนดีที่นี่มีคำตอบ (รีวิว)

เลห์ ซื้ออะไร – ที่นี่คงเป็นตลาดแห่งเดียวในเมืองเล็กๆแบบนี้ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาเดิน และ ซื้อของได้ ท่ามกลางอากาศหนาวเวอร์ ผู้คนยังคงเดินช้อปปิ้งกันได้ชิลมากคนไทยอย่างเราอย่าน้อยหน้าวันนี้ 6 August Journey จะมาชี้เป้าว่ามาตลาดเลห์ทั้งทีจะทำอะไรได้บ้างกัน

ร้านกาแฟน่านั่ง & เน็ตแรง


ร้านแรกเป็นร้านในตำนานด้วยสมยานาม เน็ตแรง โกโก้อร่อยอย่างร้าน Brazil Cafe ที่มีหนุ่มสาวชาวบราซิลมาเปิดร้านเล็กๆ ชั้น 2-3 ซึ่งทางขึ้นจะเป็นบันใดเล็กๆอยู่ข้าง Samsara Travel จุดเด่นของร้านนี้อีกอย่างคือ

บนชั้น 3 จะมีสามารถเห็นวิว Leh Palace ได้อีกแบบแถม Open Air ดังนั้นแนะนำให้มาช่วงกลางวัน เพราะกลางคืนจะหนาวมากจนนั่งไม่ได้ เมนูที่แนะนำเป็นโกโก้ร้อนแก้วละ 40 THB ได้และพวกขนมเค้กอร่อยดี

อีกร้านอยู่ตรงข้าม Brazil Cafe เลย เพียงแต่กว้างและวิวดีกว่าสำหรับ Lehvenda Cafe ร้านกว้างกว่าและใครเดินผ่านไปผ่านมาจะเห็นได้ไม่ยาก คาเฟ่ที่นี่มีอินเตอร์เน็ตหมดนะเพียงแต่จะเล่นได้แค่ 10 นาทีเพราะที่เหลือถ้าอากาศหนาวจัดเน็ตก็จะล่มเลย

เมนูเครื่องดื่มที่นี่จะมีความหลากหลาย และ ราคาก็แรงใช้ได้แต่พอๆกับคาเฟ่บ้านเรา ผู้คนไม่ค่อยมาก และทำให้เรามองเห็นผู้คนที่เดินช้อปปิ้งข้างล่างได้ด้วย ความวิวดีมันดีตรงนี้แหละ

ถือเป็น 2 คาเฟ่ที่เราอยากแนะนำให้มานั่งหลบหนาว เพราะตอนที่เราไปเพื่อนเราก็ Shopping กันเป็นชั่วโมงแต่เราหนาวเลยมานั่งรอบนนี้ชิลๆ

มาซื้อผ้าสวยหรู


ต้องเกริ่นนิดนึงว่าผ้าที่นี่ จะต่างจากผ้าที่นิวเดลีอย่างมาก คือผ้าที่นิวเดลีมันจะออกแนวเป็นผ้าธรรมดา สวยๆ คุณภาพปานกลาง ราคาถูก แต่ผ้าที่นี่เป็นผ้าทอมือซะส่วนใหญ่ งานฝีมือส่งตรงมาจากแคชเมียร์ (ใกล้กัน)

ใต้ความงานฝีมือ ใต้ความมหารานี ผ้าทุกชิ้นเป็นงานฝีมือก็ผืนละพันอัพนะจ๊ะนายจ๋า วิธีสังเกตุว่าร้านไหนคือผ้าจากแคชเมียร์ให้จำคำว่า PASHMINA ซึ่งบ่งบอกว่าข้างในร้านเขามีผ้าทอมือจากแคชเมียร์นะ มีกระเป๋า รองเท้าน่ารักเยอะแยะ เดินไปต่อให้ยับค่ะคุณ

มาซื้อ Himalaya ที่ถูกกว่าไทย 3 เท่า


คงเป็นร้านที่ Popular ที่สุดในหมู่คนไทย ถึงกับขนาดมีภาษาไทยมาติด สำหรับยี่ห้อนี่เขาว่ากันว่า ลิป Night Cream และ Eyes cream ดีที่สำคัญราคาถูกกว่าไทยประมาณ 3 เท่าราคาจะเป็นตัวเล็กๆอยู่ข้างกล่อง

นอกจากนั่นที่นี่ยังมีของฝีมือขาย พวกมีด ของมีคม สร้อย แหวน งานศิลปะที่ผู้ลี้ภัยชาวทิเบตทำมาขาย โดยจะขายกันที่ Tibetan Refugee Market ซึ่งเราเห็นประมาณ 2 จุดได้ในที่แห่งนี้เดินเข้าวนดูเผื่อได้อะไรออกมา

นอกจากนั้นก็แล้วก็จะเห็นวิถีผู้คน เอาผลไม้ของสดมาขายแอปเปิ้ลลูกละ 5 บาทอะไรประมาณนี้ กล้วย มะเขือเทศดูน่าทานทั้งนั้น

มากินเนื้อย่างที่จะเยียวยาทุกสิ่ง


ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็นจะเห็นเขาตั้งเตาแล้วสำหรับ Lamb Kabab (วิธีทำ) โดยเขาจะมีหลายชื่อขึ้นอยู่กับเนื้อที่มาทำอย่าง ไก่ แพะ แกะ มาย่างบนถ่าน บางคนเรียก Mutton on skewers บางคนเรียก Mutton Tikka แล้วเขาจะเอากระดาษที่แบบใช้แล้ว หรือ กระดาษหนังสือพิมพ์มาห่อ แต่เอาแป้งแผ่นวางก่อน แล้วค่อยใส่เนื้อบนแป้ง

แน่นอนว่าส่วนแป้งที่เปื้อนสี เปื้อนหมึกเรากินไม่ได้แน่นอน เลยกินแต่เนื้อ !!!! ถึงกับต้องอุทานนี่แหละคือสิ่งที่เยียวยาความอดอยากของเราได้ 55+ คือมันอร่อยที่สุดใน 10 วันนี้แล้ว ดูจากจำนวนคนที่มุงซื้อเอาละกัน

Exit mobile version