Site icon 6 AUGUST JOURNEY

ไปเลห์ทั้งทีมันต้องให้ได้ 4 ฤดู (วันที่ 7) | วันที่หนาวจัดที่ทะเลสาป Pangong

เลห์ ลาดัก ตุลาคม…หนาวทั้งทีต้องเที่ยวให้ได้ 4 ฤดู

เลห์ ลาดัก ตุลาคม – พอพูดถึงเลห์ คนคงจะนึกถึงวิวภูเขา ฟ้าสีฟ้าเดิมๆซ้ำๆ ก่อนผึ้งไปที่นี่ภาพในหัวก็เป็นงี้แหละ จนกระทั่งมาค้นพบช่วงเวลาสุดแสนวิเศษที่แบบ

ไปเจออากาศ -10 องศา ไปขี่อูฐที่ทะเลทรายหนาวๆ ไปเจอใบไม้เปลี่ยนสีสวยจนนึกว่าเกาหลี ไปเจอลมหิมะตีหน้า ทั้งหมดนี้ในทริปเดียว

ค้นพบความหนาวทรมานแบบไม่มีฮีตเตอร์ ค้นพบความอ๊อกซิเจนน้อยแบบพร้อมเหนื่อยได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งหมดมันเป็นประสบการณ์ที่ดี และสุด…จนผึ้งแทบไม่อยากไปไหนอีกถ้าไม่สวยกว่าที่นี่ (<< เลห์วันที่ 6เลห์วันที่ 8>>)

เตรียมตัวยังไง

ชีวิตที่เลห์ ลาดัก

ทริปนี้ไปไหนมาบ้าง

วันที่ 7 ไปไหนบ้าง


7th DAY : ทะเลสาป Pangong ไปผิดเวลา ชีวิตเปลี่ยน

ในที่สุดวันที่หนาวจัดก็มาถึง มีคำเตือนจากพี่ในทริปที่เขามาเลห์บ่อยๆว่า อย่าอาบน้ำเลย เพราะจังหวะที่น้ำไม่โดนตัว หรือ จังหวะที่ตักน้ำใส่ตัวร่างกายจะไม่สบายๆ หนาวจัด ร้อนจัด สลับกันไปมา

วันนี้ดันมุ่งหน้าไปสู่จุดที่หนาวจัดเช่นกันอย่างทะเลสาป Pangong ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักของเราไปประมาณ 150 กิโลเมตรได้ เป็นรองน้องๆ Nubra แต่หนทางลำบากพอๆกัน

โดยครั้งนี้เราจะได้ขึ้นทางหลวงที่สูงติดอันดับโลกอีกอันอย่าง Chang La Pass ที่สูงกว่า Khardung La Pass นิดนึง การเดินทางวันนี้ก็อาศัยการค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเหมือนเดิมเพื่อให้ร่างกายปรับตัว

ลืมเล่าว่าเรากินยา Diamox ทุกหลังอาหารเช้าเป็นเวลา 7 วันแล้วแหละ จนวันที่ 7 เป็นต้นไปก็ไม่ได้กินเพราะคาดว่าร่างกายคงโอเคขึ้นแล้ว แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันคือเผลอลืมตัววิ่งมาขึ้นรถแล้วอากาศบนนี้มันน้อยแน่นอนว่าหายใจไม่ทันเลยต้องนั่งกอดถังอ๊อกซิเจนกันไป

เอาจริงพอเจออ๊อกซินเจนไปคือ feel good มากอะ ร่างกายสดชื่นหรือ 6 วันที่ผ่านมาอากาศไม่เข้าสมอง รู้สึกเนือยๆ เฉื่อยๆ เพิ่งรู้ว่าอ๊อกซินเจนมันสำคัญก็วันนี้แหละจ๊ะนายจ๋า

มาพูดถึง Chang La Pass กันต่อที่เขามีความสูงถึง 5,360 เมตร เป็นถนนที่สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่เป็นทางหลวงที่สูงอันดับ 2 ของโลก และ มีเรื่องเล่าถึงความงามของวิวข้างทางที่นี่ด้วย

ความที่หิมะตกหนัก และ ถนนบนนั้นก็มีเพียง 2 เลนสวนกันไปมา วันที่เราไปแจ็คพอร์ตจ้า !เมื่อข้างหน้าเราเป็นรถบรรทุกของพี่ทหารเขามาทำอะไรกันไม่รู้เป็น 10 คันเลย แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนโซ่เข้าที่ล้อทำให้ทุกคนต้องหยุดรอ เพราะรถทหารใหญ่ รถทั่วไปแซงไม่ได้ ทำให้ล่าช้าเป็นชั่วโมงเกือบ 2 ชั่วโมง !!!

พอลงมาได้เราก็มาแวะทานข้าวข้างทางกันก่อนที่จะขับอย่างไวเพื่อมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาป พอถึงช่วงวิวประมาณนี้พวกเราก็จอดเพื่อหาน้อง Marmot

แต่หนาวขนาดนี้น้องจำศีลกันหมดแล้ว ได้แต่อ่านป้ายห้ามให้อาหารน้อง เพราะเดียวน้องจะผิดธรรมชาติไป การตามหาน้องเป็นอะไรที่ฮามาก คือตามหากันอย่างจริงจังราวกับตามล่าคนร้ายไปได้ 55+

ไม่เจอน้อง Marmot แต่เจอฝูงแพะแทน น้องๆเหล่านี้ค่อนข้างดุร้ายนะ บางชนิดที่เห็นแถวนี้บางตัวเขายังเป็นสัตว์ป่าต้องระวังด้วยนะ สังเกตเห็นน้ำเริ่มเป็นธารน้ำแข็งแล้วนะ

แล้วเราก็มาถึง Pangong จนได้ ไหนน้ำสีเทอคอยซ์ ไหนทะเลสาปที่ฟ้าสวยงาม คือตอนเราไปเนี่ยแดดมันเริ่มไล่หมดแล้ว ไม่ส่องมาที่ทะเลแล้วเงิบกินสิค่ะคุณ เวลาแค่ 15:30 ก็ไม่มีแสงแล้วค่ะ

คือถ้ารถไม่ติดบนเขาเราก็คงมาถึงนี้ประมาณเที่ยงแล้วแหละ ถือว่าเรามาแชร์ความเฟลให้ฟังละกัน ที่นี่เป็นทะเลสาปที่สูงที่สุดในโลก และ เป็นภูมิประเทศทางธรรมชาติที่ใช้กั้นอินเดีย กับ จีน (ทิเบต)

และช่วงเวลานี้ที่นี่ก็หนาวจัดมากๆ ถึงขนาดหลายคนปวดหู จึงต้องรีบขึ้นมาบนรถและต้องทำเวลากันสักนิด เนื่องจากเราจะกลับไปนอนที่เลห์เหมือนเดิม ที่นี่หนาวเกินจะอยู่แล้วจากตอนแรกจะนอนเต็นกัน

ขากลับก็ผ่าน Chang La Pass เหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือความหนาวทรมานมาก หนาวขนาดที่ว่ากระจกรถไอขึ้น และ แปลงเปลี่ยนไปเป็นน้ำแข็งเกาะกระจก เขาว่ากันว่า -10 ได้ ณ จุดนี้

สภาพแต่ละคนก็แน่นิ่งกันไปแล้ว เพราะความหนาวจัดของอากาศเราต้องอดทนจนกว่ารถจะลงมาจาก Chang La Pass ได้อากาศถึงจะดีขึ้น ทรมานน่าดูแต่ก็ดีที่พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว เลห์ วันที่ 8 >>

Exit mobile version