Site icon 6 AUGUST JOURNEY

ไปเลห์ทั้งทีมันต้องให้ได้ 4 ฤดู (วันที่ 3) | ใบไม้เปลี่ยนสีที่หน้าต่างห้องนอน

เลห์ ลาดัก ตุลาคม…หนาวทั้งทีต้องเที่ยวให้ได้ 4 ฤดู

เลห์ ลาดัก ตุลาคม – พอพูดถึงเลห์ คนคงจะนึกถึงวิวภูเขา ฟ้าสีฟ้าเดิมๆซ้ำๆ ก่อนผึ้งไปที่นี่ภาพในหัวก็เป็นงี้แหละ จนกระทั่งมาค้นพบช่วงเวลาสุดแสนวิเศษที่แบบ

ไปเจออากาศ -10 องศา ไปขี่อูฐที่ทะเลทรายหนาวๆ ไปเจอใบไม้เปลี่ยนสีสวยจนนึกว่าเกาหลี ไปเจอลมหิมะตีหน้า ทั้งหมดนี้ในทริปเดียว

ค้นพบความหนาวทรมานแบบไม่มีฮีตเตอร์ ค้นพบความอ๊อกซิเจนน้อยแบบพร้อมเหนื่อยได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งหมดมันเป็นประสบการณ์ที่ดี และสุด…จนผึ้งแทบไม่อยากไปไหนอีกถ้าไม่สวยกว่าที่นี่ (<< เลห์วันที่ 2เลห์วันที่ 4>>)

เตรียมตัวยังไง


ชีวิตที่เลห์ ลาดัก


ทริปนี้ไปไหนมาบ้าง

วันที่ 3 ไปไหนบ้าง


3rd DAY : เปิดผ้าม่านตรงหน้าต่างแล้วตะลึง

เมื่อคืนเป็นคืนที่สอนสบายที่สุดเลยจ๊ะนายจ๋า ความไม่มีฮีตเตอร์แต่มีกระเป๋าน้ำร้อนในนอนกอด คือตื่นขึ้นมาก็ยังร้อนอยู่ จำชื่อเขาไว้นะจ๊ะ Zimskhang Holiday Home Alchi โรงแรมเล็กๆแต่บริการดี๊ดี

ตื่นมาก็อาบน้ำ หาชาร้อนๆไปนั่งชิคๆที่ริมระเบียงก่อนเลยจ๊ะนายจ๋า แล้วค่อยเก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋าน้อยแล้วลงมาทาน Breakfast กัน เมื่อคืนก็ว่าเขาจัดหนักให้แล้วเช้านี้ก็ไม่วายจัดหนักให้อีกเมนู Default ที่ต้องโดนคือ Honey lemon tea

ก่อนจากที่นี่ไปเราก็ไปเดินเล่นกันหลังโรงแรมจ้าเพื่อที่จะไปชม Alchi Monastery (Alchi Choskhor) แต่วิวหลังวัดแห่งนี่สิเด็ดมากเพราะตัวเขาเองมีแม่น้ำสินธุ (Indus river) ไหลผ่านประกอบกับต้นไม่ตรงนี้ก็เหลืองหมดแล้ว แชะภาพสิจะรออะไร 55+

ถึงเวลาที่เราต้องเดินเข้าวัดแล้ว ที่มาเดินเล่นเพราะรอเวลาวัดเปิดทางเข้าวัดจะมีกระดิ่งยักษ์ให้หมุน แน่นอนว่าข้างในก็จะมีบทสวดมนต์ม้วนอยู่เมื่อมันเคลื่อนไหวคนที่เลห์เชื่อว่าสิ่งดีๆที่อยู่ในบทสวดมนต์ก็จะเข้าตัวคนที่อยู่ใกล้

ในเรื่องของรายละเอียดวัด (คลิกอ่านที่นี่) คือยอมรับเลยว่าที่นี่เก่ามาก คืออายุเป็นพันปีเหมือนกัน เป็นวัดแนวทิเบตที่ข้างในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป และแน่นอนว่าข้างในก็มีความคลัง และเก่ามากเช่นกัน 55+

ดูความใบไม้เปลี่ยนสีรอบวัดก็เกินพอแล้ว และเจดีย์ข้าวๆในวัดส่วนใหญ่ก็อยู่ในระหว่างการบูรณะมีหลายองค์ที่ถล่มลงมาแล้ว ไฮไลต์ของจุดนี้อีกเรื่องคือของขายที่เป็นลักษณะของที่ระลึกราคา Morning price ก็จะแบบยังไงก็ต้องต่ออะ 55+

จากนั้นเราก็มุ่งหน้ากลับไปที่ตัวเมืองของเลห์อีกครั้งโดยแวะที่วัด Likir Monastery ซึ่งเป็นวัดหนึ่งเดียวในหุบเขาแห่งนี้ คือวิวระหว่างทางของวัดแห่งนี้เป็นอะไรที่มองแล้วไม่เบื่อจริงๆ แถมมีจุดให้จอดรถถ่ายรูปด้วย

มาที่ Likir Monastery อาจจะเข้าใจว่าเป็นวัดทั่วไปแต่เอาเข้าจริงแนะนำให้อ่านประวัติดีๆ เพราะที่นี่มีอายุถึงเกือบ 1000 ปีอีกวัดที่มีความงามซ่อนอยู่แถมมีจุดเด่นอย่าง พระศรีอริยะเมตไตรย์ ที่เป็นสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่ใหญ่มาก

และที่นี่ยังมีลามะอาศัยอยู่ เป็นเหมือนศูนย์กลางในการเรียนพระธรรมที่สอนถึง 3 ภาษาอย่างภาษาสันสกฤต ภาษาฮินดี และ ภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งมีการเก็บคัมภีร์โบราณไว้ที่นี่เช่นกันจ๊ะนายจ๋า

จากนั้นเราก็เดินทางมาถึงที่พักในเมืองเลห์แล้วเก็บของ 15 นาทีแล้วไปช็อปปิ้งกันที่ ตลาดเล์ (รีวิว) เราแนะนำให้อ่านรีวิวตลาดเลห์ เพราะจะได้ไปเดิน ไปกิน ไปช็อปกันได้อย่างถูกจุด

อากาศก็หนาวขึ้นทุกวันเลยจ๊ะนายจ๋าจะบ้าตายจริงๆ วันนี้ก็เดินเล่นที่นี่ไปก่อนแล้วพรุ่งนี้จะไปไหนต่อตามไปอ่านรีวิวได้เลย เลห์วันที่ 4 >>

Exit mobile version