Site icon 6 AUGUST JOURNEY

24 ชั่วโมงแรกที่อินเดีย | ทัชมาฮาลด้วยตัวเองคนเดียวมี 45 บาทก็มาถึง

อินเดียด้วยตัวเอง…ทัชมาฮาลคนเดียว

ทัชมาฮาล ด้วยตัวเอง – เปิดฉากภาพตัดมาที่การก้าวเท้าหลุดขึ้นมาจาก สถานีรถไฟใต้ดินสถานี New Delhi ชีวิตโคตรพีค !!! กับสโลแกนทริปนี้

ผู้หญิงคนเดียว มาอินเดียครั้งแรก ด้วยตัวเอง 

ทริปนี้มันเกิดขึ้นไวมาก กับความคิดที่ว่าอยากไปเทศกาล Holi จริงๆสักครั้งในชีวิต พยายามชวนคนนู่นคนนี่ไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครไปด้วยสักคน ด้วยความที่ทริปนี้มีเวลาเตรียมตัวแค่เพียง 1 อาทิตย์ ความพีคของทริปนี้ยิ่งทวีคูณ ตามเรามา 6 August Journey จะเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนเดียวเที่ยวอินเดียจะเป็นอย่างไร

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] เตรียมตัวจากเมืองไทย[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”][section background_image=”http://www.sixaugust.com/wp-content/uploads/2018/03/DSC02836.jpg” text_color=”#000000″ background_color=”#eeeeee”][icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] 9 เรื่องที่อยากรีวิวเมื่อไปอินเดียกับ Jet Airways : คลิกที่นี่ (จองตั๋ว)
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ]เอกสารที่ควร & ต้องปริ้น : คลิกที่นี่
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] จองตั๋วรถไฟเป็นสิ่งสำคัญแต่ปัญหาคือเขาไม่เปิดให้คนที่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์อินเดียจอง ดังนั้นลองหาคนที่รับจองตามเว็บก็ได้ ส่วนเวลาไปอยู่อินเดียแล้ว ก็วานให้พนักงานโรงแรมช่วย
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ]แลกเงินถ้าเป็น Super rich ต้องโทรจองแล้วค่อยไปรับ แต่ครั้งนี้เราแลกที่สนามบินนิวเดลี ก็ไม่ต่างกันมากเราแลกน้อยด้วยแหละเลยไม่ซีเรียส
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] อินเตอร์เน็ต เป็นที่ทราบกันว่าที่อินเดียไม่ขายซิมส์กันง่ายๆ ทริปนี้เราลองใช้ AIS Sim 2 fly ก็โอเคอยู่ หรือ ใครจะเช่า Pocket wifi ไปก็ดีเราแนะนำ
[icon type=”fa-check-circle-o” color=”#101417″ size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ] อย่าลืมเตรียมหัวปลั๊กไฟ Universal ไปนะเพราะที่อินเดียหัวคนละแบบกับที่ประเทศไทย[/section]

 

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] ชีวิตอินเดีย[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”][toggle title=”การเดินทางในอินเดีย ทริคที่อยากแนะนำ”]ไปอินเดียครั้งนี้เราไปคนเดียว การเหมารถจึงเป็นไปไม่ได้เลย เราจึงอยากแชร์การเดินทางทั้งหมดเราใช้ และ ทริคที่อยากเล่าด้วย

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] รถไฟ
การเดินทางข้ามเมืองกับรถไฟเป็นของคู่กัน โดยรถไฟอินเดียจะให้ดีต้องจองล่วงหน้า เพราะเต็มบ่อยมาก แนะนำให้ใช้บริการคนจองรถไฟจากไทย สามารถหาได้จาก Google ถ้าแบบจองก็จะดูดีเลยแหละ มีแอร์ มีที่นั่งที่นอนนุ่มสบาย แต่ถ้าไม่ได้จอง ก็จะพบชะตากรรมแบบเรา ฮ่าๆ

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Metro ในนิวเดลีเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายในเมืองหลวง เราว่ารถไฟ Metro บ้านเขาดีกว่าบ้านเราอีกนะ ใหม่ ไม่มีเสียงโฆษณาใดๆ ผู้คนก็ดูแต่งตัวสะอาด ที่สำคัญมีแอพพลิเคชั่นดูได้ด้วยว่าจะไปสถานีไหน ต้องนั่งสายอะไร เราเขียนขั้นตอนการใช้งานไว้ให้ดังภาพข้างล่าง

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Uber

ด้วยความที่เราอยู่เมืองไทย เราก็ใช้ Uber อยู่แล้ว มาที่นี่ก็พบอีกรูปแบบการบริการคือ เขามีเรียกแบบถูกๆ แต่จะแชร์กัน เขาเรียกว่าแบบ Pool แต่ก็แชร์กันแบบคนสองคน โดยเขาจะมีจุดหมายเดียวกับเราบ้าง ทางเดียวกับเราบ้าง ลงก่อนเราบ้าง ลงหลังเราบ้างในรถคันเดียว ราคาแต่ล่ะรอบ 15-20 บาทไทยเองเวลาที่แชร์กับคนอื่น ส่วนใครที่อยากนั่งแบบเมืองไทยก็เลือกแบบ Go ในความคิดเราก็ไม่แพงนะ
คำเตือน อย่าไปเรียกในย่านที่พลุกพล่าน มิฉะนั้นจะหากันไม่เจอ แล้วติดต่อกันไม่ได้ เพราะอย่าลืมเราไม่มีเบอร์อินเดีย

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ]  เรียกรถผ่าน Ola

เจ้านี้ก็สงวนให้กับคนที่มีเบอร์อินเดียอีกแล้ว เราใช้เจ้านี้สำหรับหารรถข้ามเมืองกัน เพราะเพื่อนชาวฝรั่งมาอยู่นาน นางเลยมีเบอร์ที่นี่ หรือใครขอให้เจ้าหน้าที่ทางโรงแรมช่วยก็ได้ ข้อดีคือเห็นราคาก่อนเรียก เราจะพอใจไม่พอใจค่อยเรียก ก็ดีไปอีกแบบ
แนะนำ ตรงสถานีนิวเดลี จะมีบูท Ola ตั้งอยู่เราเคยขอให้เข้าช่วยเหลือเรียกให้เขาก็ช่วยนะ ดีไปอีกแบบ

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

[icon type=”fa-automobile” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] ริกชอร์ถ้าเราอยู่นิวเดลีนะ เราจะให้ริกชอร์เป็นทางเลือกสุดทายด้วยความที่ในนิวเดลี มันพูดเป็นอยู่คำสองคำคือ One-fifty และ two-hundred ห่าน !!! ถ้าอยู่ต่างเมืองแนะนำให้ต่อไปเลย 50% หรือใครจะต่อมากกว่านั้นก็ได้ เราลองหาเทคนิคอีกเรื่อง คือ ทำเป็นทักคนอินเดียที่ดูดี เหมือนมีตัง ทำเป็นบอกว่าเนี่ยเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ช่วยฉันหน่อยสิ เขาจะไปพูดให้ถ้ามันเรียกแพงเขาก็ต่อให้เสร็จสรรพ ลองๆ

[/toggle][toggle title=”ไปอินเดียซื้ออะไร”]ส่วนใหญ่ถ้าเที่ยวแถวนิวเดลี ยังไม่ได้ภาคเหนือมากๆนักเราแนะนำ ขนม ช็อคโกแลต ผ้า และ ปากกา แถมเพิ่มจะเป็นปากกาเขียนขอบตา เพราะคนอินเดียชอบใช้กันแต่ตัวเราเองไปหลงไหล ได้ปลื้มกับตลาดนัดบ้านเขาอย่างตลาด Sarojini Nagar เพราที่นี่ขายเสื้อผ้า สาหรี่ เต็มไปหมดแล้วถูกมากๆ อย่างผ้าคลุมไหลที่ขายในไทยผืนล่ะ 100 แต่ที่นี่ขาย 30 บาทไทย กระเป๋าขายที่ไทยใบล่ะ 100 อัพที่นี่ขาย 70 บาท

กระเป๋าช็อปปิ้งใบล่ะ 75 บาท

[/toggle][toggle title=”ไปอินเดียกินอะไร ที่พอกินได้”] เป็นปัญหาระดับชาติ เพราะบางคนกินไม่ได้ก็กินไม่ได้เลย ซึ่งเราไม่มั่นใจตัวเอง เลยเตรียมมาม่า กับ อาหารกระป๋องไปด้วย แต่เมื่อได้ลองทานจริงๆ มันก็มีอร่อยบ้าง แปลกๆบ้าง โดยในที่นี่เราอยากเล่าถึงอะไรที่อร่อยเนอะ

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Masala

มันคือแกงเผ็ดที่ใส่ มัสซาลา คล้ายแขนงบ้านเรา ที่เราชอบกินจะเป็น มัสซาลาไก่ แนะนำให้กินคู่กับ จาปาตี หรือโรตีบ้านเรา โดยเมนูนี้สามารถหากินได้ตามร้านอาหาร ถือเป็นอะไรที่กินง่าย หาง่ายถูกปาก

[tdivider style=”fa-heart” color=”#222222″]

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Chona Kucha เมนูนี้ให้ 10 ดาว เพราะมีแค่ 10 บาทก็อิ่มไปได้อีกมื้อ มันจะเป็นเมนูแนวๆแกง แต่ใส่พริก ใส่หอม ใส่มะเขือเทศคลุกๆกันได้ยำออกมา แล้วกินกับโรตีนะ โคตรเด็ด โดยเมนูแบบนี้เราเห็นมีขายทั่วเลย แนะนำให้ลองถ้าไปเดินตลาดต้องเจอบ้าง

[tdivider style=”fa-heart” color=”#222222″]

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Bhalla papdiคือเราเข้าใจว่าเป็นขนมหวาน แต่มีอะไรเผ็ดๆราด ที่สำคัญมันจะเย็นๆ มีความหวานมันเป็นกะทิ เราไม่เคยรู้หรอกว่ามีจนได้ไปเดินตลาดแถว Chandni Chowk ที่กรุงนิวเดลี เห็นคนมุงเยอะเลยลองเอาบ้างราคา 30 บาทไทยได้

[tdivider style=”fa-heart” color=”#222222″]

[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Street food ที่ตลาดนิวเดลี

กาแฟ ชา ในตำนาน
ไว้กินกับโรตี
แซนวิชไหม
ผลไม้ 10 บาท

[/toggle]

 

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] ทริปนี้ไปไหนมาบ้าง[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”]

[icon type=”fa-map-o” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] งบสำหรับทริปนี้[divider style=”dotted” height=”2px” color=”#fcf06d”]

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

1st DAY : 24 ชั่วโมงแรกที่ อินเดีย

เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับทริปนี้ เราก็มาเริ่มต้นที่ สุวรรณภูมิ ความรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลาจริงๆ นี่เรากำลังจะไปอินเดียคนเดียวนะ เจ้าหน้าที่เช็คอินของสายการบิน Jet Airways ก็ถามว่าไปครั้งแรกใช่ไหม มีเอกสารวีซ่าพร้อมใช่ไหม เดียวช่วยตรวจ

สิ่งแรกที่เราทำเมื่อมานั่งรอที่ เกรตคือ เราหาคนไทยที่นั่งรอหน้าเกรตเดียวกัน ที่มีน้อยเหลือเกินนับจำนวนคนได้ อย่างน้อยก็รู้สึกปลอดภัยหน่อย 55+ ก็เจอพี่ผู้ชายคนนึง แกขายของที่จตุจักร แล้วก็มาซื้อของที่อินเดียไปขาย แกเล่าว่ามานิวเดลี มาพักวัดไทยสิ ฟรีนะ !!! ต้องลองนะคุณ

เราขึ้นเครื่องไปพร้อมกับความคิดที่ว่า มันต้องขมคอแน่ๆ แต่ตามจริงแล้วไม่ใช่เลยนะ หรือว่าแขกที่นี่เขาพัฒนาแล้ว มันไม่ใช่กลิ่นตัวแบบที่เราเจอที่ไทย ระยะเวลาในการบิน 4 ชั่วโมงนี้ก็มีอะไรให้น่าตื่นเต้นตลอด เพราะเพิ่งเคยขึ้นสายการบินนี้ เขามี Wifi ให้เล่นดูหนัง ฟังเพลง รอเวลากันไป ที่สำคัญอาหารอินเดียบนเครื่องอร่อยกว่าที่คิด

ในที่สุดเราก็มาถึงสนามบินนิวเดลี เริ่มปฎิบัติการอีกรอบด้วยการหาเพื่อน 55+ จังหวะที่เดินเข้าสู่ด่านคนตรวจคนเข้าเมือง อย่าลืมนะเราเป็นคนไทย ต้องมีวีซ่า โดยเราทำวีซ่าออนไลน์ไว้ 24 ชั่วโมงรู้ผลเลย ก็ปริ้นมาใช้ตอนตรวจคนเข้าเมือง คำถามที่เราเจอก็จะงงๆหน่อย เราฟังสำเนียงไม่ออกด้วยแหละ เราก็เล่าว่าเรามาเทศกาล Holi นะ ไปสามเมือง Agra, Mathura และ New Delhi

ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้วก็มารับกระเป๋า แลกเงินอินเดียที่ตอนแรกเราไป Super rice แต่เราไม่ได้โทรจองที่เมืองไทยไว้ เลยต้องมาแลกที่นี่เรตก็โอเคนะไม่คิดอะไรมากเอาเงินไทยคูณสองไปจะได้เงินอินเดีย เราแลกแค่ 6000 บาทไทยสำหรับทริปนี้ ส่วนเวลาใช้เงินก็เอาราคาที่เห็นหารสองสบายๆมีคนเคยเล่าว่าที่นี่มีรถไฟแบบ Airport Metro Express ที่จะวิ่งเข้าสถานีใหญ่ๆอย่างสถานีนิวเดลี โดยมันจะมีป้ายใหญ่ๆ บอกว่าตรงนี้คือ Metro Express นะ โดยที่เราต้องเดินออกมาจากสนามบินประมาณ 10 ก้าวก็จะมีอุโมงใต้ดินให้เราเดินไป Metro Express เอง

จังหวะที่เดินออกจากสนามบิน แน่นอนว่าคุณจะเจอพวกแท็กซี่มาเดินตามคุณ เทคนิคที่เราใช้คือ เราเดินตามผู้ชายอินเดียคนนึงที่มีกระเป๋าเดินทางลากมาเหมือนกัน ให้ความรู้สึกฉันเป็นเมียเค้า 55+ แล้วพวกแท็กซี่ก็จะไม่ตามตื้ออีกต่อไป เพราะเข้าใจว่ามาด้วยกัน

ลงสถานีมาเราก็ต้องซื้อ เหรียญเหมือน MRT บ้านเราในราคา 60 IDR ก็จะถึงสถานี New Dehli รถไฟดูดีกว่าบ้านเรามากบอกเลย สิ่งหนึ่งที่จะแปลกๆหน่อยคือ เวลาจะเข้าสถานีรถไฟ เราต้องเอากระเป๋าเข้าสายพาน เครื่องตรวจเหมือนสนามบินเลย ก็จะช้าๆหน่อย แล้วเราก็มาโผล่ที่ สถานีนิวเดลี

ความวุ่นวายบังเกิด ราวกับคนล่ะโลกกันเลย คือแบบ… ผู้คนพวกแท็กซี่ ริกเชอร์ก็ดูน่ากลัว พร้อมจะหลอกเราทุกเมื่อ เราเลยทักผู้ชายอินเดียคนนึง ที่เขาก็ถือกระเป๋าเดินทางข้ามเมืองเหมือนกัน ให้เขาช่วยเราหน่อย เรามาที่นี่ครั้งแรกอยากไป Taj Mahal ที่เมือง Agra ดีที่เขาใจดีพาเราไปจุดซื้อตั๋ว (เอาเข้าจริงถ้าไม่มีเขา เราก็หลงนะ)

แล้วเขาก็พาเราไปซื้อตั๋วธรรมดา !!! ที่ราคา 45 บาทไทยก็พาเราไปทัชมาฮาลได้ เน้นว่าธรรมดาเพราะเราไม่จองมาก่อน รถไฟคลาสดีๆต้องจองมานะ เพราะโอกาสเต็มก็มีสูง แล้วแถวที่ต่อซื้อตั๋วก็แยกกันชัดเจน แถวผู้ชาย และ ผู้หญิง มีเจ้าหน้าที่ถือกระบองคอยไล่ถ้ามีการล้ำเส้นกัน สภาพโคตรเสื่อมโทรม

แล้วเราก็เจอแก๊งสาวๆ สเปนที่ก็มายืนต่อแถวซื้อตั๋วเหมือนเรา เราเลยเริ่มทักทาย แล้วบังเอิญว่าปลายทางเดียวกับเรา เราเลยบอกเขาว่าเราไปด้วยได้ไหม ยูก็รู้ผู้หญิงคนเดียวมาเที่ยวที่นี่มันดูไม่ปลอดภัยนัก พวกนางก็ยินดีมาก พวกนางมาเที่ยวอินเดียกัน 2 อาทิตย์

แล้วก็มีหญิงสาวใจดีชาวอินเดียคนนึง ที่ใจดีพาเราขึ้นรถไฟกัน เพราะนางก็จะไปทางเดียวกัน พูดภาษาอังกฤษได้ดี คอยพูดคุย แนะนำการนั่งรถไฟอย่างดี และชวนคุยไปด้วยตลอดทาง ความพีคและชีวิตจริงบนรถไฟบังเกิด !!! สิ่งแรกที่ได้พบคือ กลิ่นฉี่ กลิ่นขี้ตลบอบอวลมาก !!!

แล้วกว่ารถไฟจะออกก็นานมาก ดีที่ช่วงที่ไปไม่ร้อนมาก แต่สิ่งที่ค้นพบในรถไฟมันก็มีค่ามากมายเลยแหล่ะ อย่างเด็กคนนี้ที่พ่อแม่ก็เลี้ยงด้วยการให้นั่งตามทางเดินของรถไฟ แล้วเวลาที่คนขึ้นรถไฟมา พวกคนอินเดียก็จะชวนกันเบียดให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้นั่งให้ได้มากที่สุด

ด้วยความที่ผู้หญิงชาวอินเดียที่เขาอาสาดูแลพวกเรา เขาก็เล่าเรื่องสารพัดเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรม ครอบครัว การเป็นอยู่หนึ่งในนั้นคือเรื่อง ของกินบนรถไฟ นางซื้อให้พวกเราชิมเลย ไม่ว่าจะเป็น xxx ที่มันคือข้าวเกรียบบ้านเรา แต่โรยผงเค็ม ๆ ประมาณ 5 บาทไทยได้ 3 แผ่นใหญ่ ๆ

แล้วก็มีพวกถั่ว เข้าใจเลยว่าทำไมแขกที่มาในเมืองไทยเขาขายถั่วกัน แล้วก็มีขนม Samosa หรือ กะหรี่ปั๊บบ้านเราเอาจริงๆเราก็ลองหมดนะ คือ รสชาติมันก็จะหวานๆ บ้าง เค็มๆ บ้าง โดยที่ระหว่างทาง กลิ่นขี้ กลิ่นฉี่ก็โชยมาเป็นระลอก ชีวิตโคตรพีค !!!

ประมาณ 5 ชั่วโมงบนรถไฟได้ก็มาถึงสถานี Agra Cantt คือถ้านั่งรถไฟที่จองนะก็ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงแถมมีแอร์ มีที่นั่งสบายให้นั่ง แต่นี่มาแบบ 45 บาทไงจะเอาอะไรมาก ฮาๆ 24 ชั่วโมงแรกในอินเดียโคตร Amazing จากนั้นผู้หญิงชาวอินเดียคนนั้นก็มาช่วยต่อราคาริกเชอร์ เราก็เช็คกับที่พักมาแล้วแหละประมาณ 200 IDR หรือ 100 บาทไทยได้

เอาจริงๆนะ เรามาถึงจุดๆนี้เราโคตรเหนื่อย นั่งจนกางเกงในเปียก แล้วต้องมาเจอการขับรถสไตล์อินเดียเข้าไปอีก เวียนหัวจะอ้วก โรงแรมที่เราเลือกพักในคืนนี้เป็น Hostel แบบดอร์มเพราะเรามีความคิดว่า เอาวะ…ไปหาเพื่อนในที่พักก็ยังดีกว่าอยู่คนเดียวที่ Moustache hostel คืนล่ะ 300 IDR หรือ 150 บาทไทย

[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]

2nd DAY : เรามาเพื่อเจอเธอทัชมาฮาล

เมื่อคืนเราลองถาม Hostel เรื่องรถ หรือ ไกด์ไปทัชมาฮาล ด้วยความรู้สึกว่าถ้าไปคนเดียวกลัวโดนฉุด 55+ แต่แบบก็ไม่อยากเสียเงินจ้างไกด์เราเลยยอมเสี่ยงเช้านี้ตี 5 ครึ่งเดินออกมาจากที่พัก โชคดีที่เราเห็นนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 30 คนเดินมาพร้อมไกด์อินเดีย 1 คนเราเลยทำเนียนไปกับเขา

ไกด์อินเดียก็พูดคุยกับเรานะ เหมือนเขาก็เมตตาให้เราไปด้วยไรงี้ แล้วเขาก็เดินไปซื้อตั๋วเข้าทัชมาฮาลพร้อมเรา คนไทยแสดงพาสปอร์ตจะได้ส่วนลด 50% เหลือ 530 IDR หรือ 265 บาทไทยนะอย่าลืม แล้วก็อย่าลืมเดินเลยไปรับน้ำ และ ถุงเท้า (สำหรับใส่เดินในทัชมาฮาล) โดยจุดนั้นมีที่ให้ฝากของด้วย (กระเป๋าใหญ่ ขาตั้งกล้องเป็นของต้องห้าม)

เมื่อได้ทุกอย่างแล้ว เราก็หายไปพร้อมความมืด 55+ รีบวิ่งไปต่อแถวเข้าทัชมาฮาล เพราะประตูเขาจะเปิดให้เข้า 06:30 แต่เราไปยืนต่อแถวตั้งแต่ 06:00 นะความพีคคือ เราไปยืนต่อแถวผู้ชาย !!! คือมันมีสองแถวโดยที่เราไม่สังเกต เห็นอันไหนใกล้สุดก็ต่ออันนั้น 55+ แล้วก็มีผู้ชายอินเดียเดินมาทัก มาดาม ยูต้องอยู่แถวผู้หญิงนะ !!!

แล้วฝรั่งแถวผู้หญิงก็กวักมือเรียกเรา ยูมาต่อตรงนี้ด้วยกันก็ได้ นางมาจากฮาวายใจดีมากๆ ก็ยืนคุยจิปาถะระหว่างรอแถว แล้วถึงจุดที่ตรวจกระเป๋า ตรวจอาวุธเรียบร้อยแล้วเราก็รีบวิ่ง วิ่งๆ เพราะมีคนแนะนำว่าให้วิ่งเข้าไปที่ทัชมาฮาลให้เร็วที่สุด ถ่ายรูปจะได้ไม่ติดคน

วินาทีแรกที่เราเห็นทัชมาฮาล เราได้ยินเสียงฝรั่งพูดว่า Sweet ด้วยน้ำเสียงสุดทึ่ง เอาเข้าจริงมันก็สวยมากจริงๆแหละ แล้วสวยแบบที่ว่าต้องมองด้วยตา ภาพถ่ายที่ได้มันยังสวยไม่เท่าของจริงเลย จังหวะที่กำลังเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็มีผู้ชายอินเดียเข้ามาทักทายแหละ อาสาถ่ายรูปให้รูปล่ะกี่บาทก็ว่าไป เรามาคนเดียวไงก็เลยเออๆออๆ 250 IDR หรือ 125 บาทไทยได้มา 6 รูป 55+

รูปที่ได้มาก็แบบ 55+ พูดไม่ถูก จังหวะนั้นเราก็เจอผู้หญิงคนนึงที่เขาขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้ที นางเป็นคนฝรั่งเศส ที่ทำงานอยู่ในลอนดอน เราก็ทักทายมาคนเดียวหรอ เราก็มาคนเดียวนะ เที่ยวด้วยกันไหม จะได้ถ่ายรูปให้กันและกัน เรานี่ก็ชวนเต็มที่ ซึ่งนางก็โอเคนะ นางเป็นคนตรงๆ แล้วมีการบอกด้วยนะตัวนางเองเป็นพวก Perfectionist 55+

นางชื่อ Soraya มาเที่ยวอินเดียนานเป็นเดือน ด้วยความคลั่งไคล้ความเป็นอินเดีย นางเล่าว่าที่ยุโรป บอลลีวู้ดดังมากนะ นางจึงชอบอินเดีย ชอบเพลง ชอบซีรีย์อินเดีย ก่อนมาเจอเรานางเที่ยวอินเดียมา 2 เมืองแล้ว เราก็เมาส์มอยไปเรื่อย ต่อแถวเข้าทัชมาฮาล นางเป็นอีกคนที่ไม่ได้หยิบถุงเท้าและน้ำดื่มเข้ามา แต่ว่ามันมีตู้กดถุงเท้าตรงทางขึ้นปราสาท สำหรับใครที่ลืม

คำถามที่หลายคนสงสัยว่าข้างในมีอะไร มีโรงศพของ King และ Queen วางคู่กันให้เราได้เดินรอบๆ เพื่อชมความงาม ห้ามถ่ายรูปข้างใน Soraya เล่าถึงประวัติที่นี่ให้เราฟัง เรื่องการที่ราชินีเสียชีวิต แล้วทำให้พระราชาเสียใจสุดๆ จึงสร้างทัชมาฮาลขึ้นมาเพื่อมองต่างหน้า แต่นางมีคอมเมนต์นะว่ามันก็ไม่ยุติธรรมเพราะมีชีวิตผู้คนมากมายที่ตายเพราะการสร้างทัชมาฮาลนี่แหละ

จากนั้นเราก็เดินไปที่ปราสาทข้างๆทัชมาฮาล จังหวะนี้เองเราก็ถามถึงแพลนของนางว่าจะไปไหนต่อ นางก็จะมาเล่นเทศกาล Holi ที่เมือง Mathura พอดีเลยแล้วยังไม่มีที่พัก ก็เข้าทางเราเลย งั้นไปกับเราสิเราจองที่พักไว้แล้วมาแชร์ค่าห้องกัน นางก็ขอคิดดูก่อน เพราะเย็นนี้จะไปล่องเรือชมทัชมาฮาล ซึ่งเราก็อยากไปเช่นกัน เราเลยบอกฉันไปด้วยสิ

นางดูชอบภาพที่เราถ่ายให้มาก เลยตกลงไปด้วยกันต่อเลย แปลว่าพรุ่งนี้เราก็จะมี Soraya เที่ยวกับเราด้วย สบายใจเราแล้วแหละ เพราะคงปลอดภัยไปอีกวันด้วย จากนั้นเราก็แยกย้ายกลับไปที่พักเรา เพื่อเก็บกระเป๋ามารอที่พักของ Soraya โดยนางพักที่ Zostel ใกล้ที่พักเรานั่นแหละ

ข้อดีของที่พักเรา และของ Soraya คือเดินถึงกันได้เลยจากทัชมาฮาล ก็จะได้พบเจอชีวิตผู้คนแถวนั้นแหละ แต่เราบอกเลยว่าถ้าเดินคนเดียวเราว่ามันดูไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร ดีที่มีคนเดินมาด้วย

เรามานั่งกินอาหารเช้าที่ Zostel โดยเราสั่งชุดอาหารเช้ามีซีเรียล ขนมปัง ไข่เจียว กล้วยมาให้ในราคา 180 IDR หรือ 90 บาทไทย แล้วเราก็เจอพี่คนไทยที่นี่ ก็คุยปกติ ตัว Soraya เองรู้สึกไม่สบายเลยขอไปนอนพักก่อน ส่วนเราเองตั้งใจจะไป Agra Fort แต่ด้วยความร้อนและเหนื่อยล้าจากเมื่อวานเลยนอนเล่นที่คาเฟ่ของ zostel

ในคาเฟ่แห่งนี้เอง ที่ทำให้เราได้พบกับเพื่อนของ Soraya เป็นเพื่อนที่นอน Hostel นี้เช่นกัน นางเป็นหนุ่มชาวโปรตุเกส ที่สนใจจะไปล่องเรือกับเรา และจะไป Mathura ด้วยเช่นกัน เราเลยตกลงที่จะแชร์ค่ารถข้ามเมืองกัน 3 คน ระหว่างนี้ก็มีพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลา

แล้วเราก็ถามอายุนาง มาเที่ยวคนเดียวหรือ ทำงานอะไร บลาๆ มันก็เป็นเรื่องบังเอิญที่เราบังเอิญทำงานในสายงานเดียวกัน แล้วก็บังเอิญที่อายุเราสองคนลงท้ายด้วยเลขเดียวกัน นางเป็นคนพูดเองนะ นี่ก็เริ่มไม่มั่นใจว่านางจีบหรือว่าอะไร ก็รู้สึกแปลกๆนะเพราะนางแอบมอง 55+ ช่วงนั้นก็บ่ายเลยสั่ง Chicken butter Masala กับโรตี อร่อยชอบ 🙂

แล้วก็ถึงเวลาล่องเรือ เราก็เดินไปทัชมาฮาลเหมือนเดิม ต่างจากเดิมตรงที่ต้องเดินไปทางขวามือ เพื่อไปแม่น้ำยมุนา ที่เป็นแม่น้ำข้างทัชมาฮาล คุณพระ !! เน่าจนไม่รู้จะเน่ายังไง ขยะลอยเต็ม น้ำเหม็นมาก แต่แสงอาทิตย์สวย

ลุงคนพายเรือก็พายไปถึงกางแม่น้ำ แล้วก็พายกลับ !!! แค่นี้เองหรอ ??? ลุงแกก็บอกว่าแค่นี้ เพราะเรือมีลำเดียว แต่กรุ๊ปถัดไปก็มาต่อคิวแล้ว นี่งงในงง ทัวร์ชมพระอาทิตย์ตกที่เราซื้อมาจากโรงแรม Zostel ราคา 250 IDR หรือ 125 บาทไทย ทำไมมันสั้นแค่นี้

ไกด์เลยพาเราเดินชมเมืองบริเวณทัชมาฮาล แล้วมาจบที่ Rooftop ที่อยู่บนโรงแรม Hotel Saniya Palace เราจะเห็นวิวทัชมาฮาลในมุมน่ารัก แบบที่เราเห็น โดยไกด์พาเรามาชมวิว เหตุเนื่องจากลัวพวกเราไม่พอใจเรื่องล่องเรือจบไวไป

ด้วยความที่เราใช้เลนส์ฟิกซ์ติดตัวมา เลยไม่สะดวกที่จะถ่ายรูป เราเลยวานให้เพื่อนชาวโปรตุเกสถ่ายให้ 55+ ในกล้องยูแหละ สวยดีๆ นางก็ทำหน้าที่ได้ดีนะ ถ่ายจนกว่าจะสวย ฮ่าๆๆ แต่นางก็บอกนะไม่เป็นไร ถ้ารูปที่ถ่ายมันสวย นางก็โอเค คิคิ

แล้วเราก็สั่งเครื่องดื่ม Mix fruit ที่เป็นอะไรที่แบบ นางเอาโกโก้มาปั่นใส่ลูกเกด ใส่วิปครีม ใส่คุกกี้ และ กล้วยนี่งงมากเลยทีเดียวว่ามันผลไม้รวมตรงไหน โดนไปประมาณ 90 บาทไทยได้ ถือว่ามากินลมชมวิวที่นี่ละกันจากนั้นเพื่อนเราที่มีเบอร์อินเดียก็เรียกรถ Ola เพื่อเข้าเมืองไปยัง Mathura หารกันคนล่ะ 560 IDR หรือ 281 บาทไทย รีวิว Mathura กับเทศกาล Holi

Exit mobile version