The huntsman pub – เคยซึมซับบรรยากาศการเชียร์บอล แบบฉบับผู้ดีอังกฤษที่แท้ทรูไหม ก้าวแรกที่เราได้มาเยือนที่นี่ มันทำให้เรานึกถึงบรรยากาศผับเล็กๆ ที่แต่งสไตล์อังกฤษสร้างบรรยากาศเชียร์บอลจิบเบียร์ได้ดี เหนือสิ่งอื่นใดเมนูอาหารที่นี่ก็สร้างความเป็นอังกฤษที่แท้จริง แบบหากินที่ไทยยากเช่นกัน ตามเรามา 6 August Journey จะพาไปลอง
[youtube width=”100%” height=”100%” autoplay=”true”]https://youtu.be/V0wa2kxQ9gU[/youtube]
เมนู A la cart
([icon type=”fa-star” color=”#f8fc0f” size=”16px” style=”plain” link=”” new_window=”true” ]คะแนน 10 เต็ม 10)
เมนูแรกมีชื่อว่า Cottage Pie หรือ พายเนื้อสับหน้ามันบด (350 บาท ปี 2017) เนื้อที่นี่ต้องยอมรับเลยว่า เกรดดี ไม่มีกลิ่นสาป กินไปแทบไม่รู้เรื่อยว่าเป็นเนื้อ ถือเป็นเคล็ดลับว่าแทบทุกจาน เขาหมัก และ ใช้ระยะเวลานานพอสมควร ถือว่าอร่อยในระดับนึงเลยสำหรับเมนูนี้
เมนูถัดมาอย่าง Bangers and Mash หรือ ไส้กรอกกับมันฝรั่งบด (350 บาท ปี 2017) โดยไส้กรอกที่ว่าจะเป็นไส้กรอกแบบชาวอังกฤษที่แท้จริงเลยคือ Cumberland sausage (คัมเบ่อเลินด ซอสซิจ) ซึ่งเป็นสูตรจาก Cumbria เป็นแคว้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ เป็นไส้กรอกที่รสชาติจัดจ้านด้วยเครื่องเทศและพริกไทย
ส่วนเมนูที่หนึ่งในใจเราสำหรับการลองชิมครั้งนี้คือ BBQ Spare ribs หรือ ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิว เรายกให้เมนูนี้เป็นอันดับหนึ่ง เพราะมันอร่อยและที่สำคัญมันนุ่มแบบที่สามารถใช้ส้อมจิ้ม แล้วเนื้อสามารถหลุดออกมาจากกระดูกได้แบบง่ายๆเลย (ไม่เชื่อดูคลิปได้เลยจ้า)
เมนูถัดไปคือ Beef and guinness stew หรือ สตูว์เนื้ออบเบียร์ดำ (390 บาท ปี 2017) โดยต้องยอมรับเลยว่าเขาทำพิถีพิถันมากเมนูนี้ เพราะใช้เวลาในการทำนานจนเนื้อเปื่อยซึ่งเนื้อที่เอามาทำจะเป็นส่วน แก้มวัว เชพเล่าว่าใช้เวลาทำถึง 6 ชั่วโมงในการเคี่ยวกับไฟอุ่นๆ ผ่านการหมักเบียร์ดำมาด้วย อร่อยลืมเนื้อ !!
เมนูสุดท้ายของ A la cart ที่เราลองคือ Fish and Chips หรือ ปลาชุปแปงทอดกับมันฝรั่งทอด (350 บาท ปี 2017) เมนูแบบนี้เราเพิ่งกินที่ร้าน The Manhattan Fish Market ที่นี่จะคล้ายๆกัน ต่างกันตรงที่แม้มันเย็นแล้ว แต่ก็ไม่พบร่องลอยการอมน้ำมัน แล้วก็ไม่เอียนมากถือว่าสอบผ่านจ้า
[tdivider style=”fa-reorder” color=”#222222″]
เมนูเนื้อ Line Buffet
(คะแนน 9 เต็ม 10)
เนื้อที่นี่อย่างภาพ Medium Rare ภาพบนเป็น เนื้อแกะนิวซีแลนด์อบ ที่ขอการันตีเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่ๆ เชฟฟรานซิสโก ที่เล่าถึงกระบวนการที่มาของเนื้อแต่ละชิ้นให้ฟังกัน เมื่อลองชิมแล้วรู้เลยว่าใส่ใจ รวมทั้งไก่อบสมุนไพร ที่มาพร้อมซอสหลากหลายหนึ่งในนั้นเป็นซอสเกรวี่
นอกจากเนื้อชิ้นใหญ่ที่เชฟจะหั่นให้ทานแล้ว ยังมีเมนู Lancashire Hot Pot ซึ่งเป็นเมนูดังแทบทุกผับในอังกฤษ โดยเขาจะใช้เนื้อลูกแกะมาเคี่ยวจนนิ่มละลายในปากแล้วโรยด้วยมันฝรั่ง ข้างๆกันก็จะมี Cumber Land Sausage ที่เป็นไส้กรอกสัญชาติอังกฤษที่เผ็ดร้อนด้วยพริกไทย เครื่องเทศ
กึ่งกลางทั้ง 2 หม้อจะมี ยอร์คเชียร์พุดดิ้ง ที่เราสามารถโรยด้วยซอสเหล่านี้ก็ได้ หรือ จะใช้ซอสเกรวี่ที่เขาเตรียมให้มาลองกินได้สบายๆ ถือว่า Line นี้ค่อนข้างอิ่มแน่แน่นอนจ้า
[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]
เมนูสลัด Line Buffet
(9 คะแนนเต็ม 10)
มุมสลัดที่นี่จะไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่ก็มีเมนูที่น่าจะถูกใจใครหลายคนอย่าง ยำแซลม่อน ที่เราสามารถนำมา Adapt โรยบนสลัดได้เลย ส่วนผักก็จะมีความหลากหลาย น้ำสลัด (Salad Dressing) จะมีให้เลือกแบบที่เราคุ้นเคยคือ Ceasar, Thousand และ Vinaigrette เลือกชิมให้ครบเผื่อพบอะไรที่ใช่
ในส่วนของ Salad Topping นั้นเขาก็สลับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน โดยครั้งนี้จะมีผักจำพวก Beetroot Carrot, Cauliflower และ Broccoli สดๆกันเลย และ แปลกดีเหมือนกัน ที่สำคัญมีจุดให้เราได้ Mix สลัดตามใจชอบเราด้วย
[slider effect=”slideInLeft” pausetime=”3000″ autoplay=”true” navigation=”true”]
[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]
เมนูอาหารเนื้อตัดเย็น Line Buffet
(คะแนน 9 เต็ม 10คะแนน)
อาหารตัดเย็นในที่นี่ คือ อาหารจำพวกแฮม แซลม่อน และ ชีส และที่นี่มีไก่แถมมาด้วย โดยชีสที่นี่มีหลากหลายมากด้วย ไม่ว่าจะเป็น French Brie, English Blue และ Swiss Em-mental บ้างก็เป็นชีสนมวัว บ้างก็เป็น ชีสที่ติดอันดับว่าดีที่สุดใน British
ในส่วนของแฮม และ แซลม่อนนั้น คุณภาพเขาก็เหมือนบนห้องอาหาร Atrim เลยส่วนแฮมก็จะมากัน 3 แบบตามภาพเลย นอกจากนั้นยังมีขนมปัง มาพร้อมซุปผักที่ตั้งไฟร้อนๆ ให้เราจะได้จุ่มขนมปังอร่อยๆ แล้วยังมีเมนูดองมาด้วยคาดว่าใช้ตัดความเลี่ยนแน่นอน
[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]
เมนูขนมหวาน Line Buffet
(คะแนน 10 เต็ม 10)
เรื่องขนมหวาน เราขอการันตีว่าที่นี่ดีสุดๆอยู่แล้ว ขนมหายากก็มีบางตามโอกาศ แต่พระเอกในวันนี้เราขอยกให้ พายแอปเปิ้ล ที่ไม่หวานไป ทุกอย่างกำลังพอดี ส่วนเค้กที่นี่อร่อยอยู่แล้ว เราขอท้าให้ลองเลยเขามีสั่งแยกเป็นปอน์ดอยู่แล้วด้วย
[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]
เมนูแก้เลี่ยน Line Buffet
(9 เต็ม 10 คะแนน)
มุมนี้แก้เลี่ยนได้ดีอย่าง Seafood with Herb หรือ อย่างอาหารทะเลสมุนไพร และ Chicken Teriyaki หรือ ไก่เทอริยากิ ที่จะสามารถทำให้เราหายเลี่ยนได้จากเมนู British จ๋าแต่กินแบบพอดีก็อร่อยไม่เบานะ
เมนูแปลกๆ ยกให้ Tomato Facis ที่ยัดไส้เนื้อข้างในเป็นลูกๆ แปลกและอร่อยดี ถือเป็นอีกเมนูที่เพิ่งเคยกินที่นี่
[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]
บรรยากาศร้าน
(8 เต็ม 10 คะแนน)
บรรยากาศร้านจะเป็นแบบผับฝรั่งเลยแหละ แต่ที่หักคะแนนคือ ไล์อาหารทั้งหมดจะอยู่หน้าร้าน คือ Layout เขาจะเหมือนร้านที่มีพนักงานเสริฟมากกว่า แต่บรรยากาศการนั่งจิบเบียร์เป็นอะไรที่โอเค มีเคาเตอร์ มีทีวีดูบอล ได้อารมณ์ British ที่แท้จริง
[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]
[icon type=”fa-bullhorn” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ]โปรโมชั่นมา 4 จ่าย 2
ห้องอาหาร : The Huntsman Pub (ชั้น B โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ)
การเดินทาง : ที่นี่อยู่ใกล้ BTS สถานีนานา ทางออกที่ 2
ราคา (DEC 2017) : 950 ++ บาท
เวลาเปิด : Lunch Sun (11:30 – 16:00)
ช่องทางการจอง
โทร : 02-254-0404
Line : @thelandmarkbangkok
Facebook : https://www.facebook.com/TheLandmarkBangkok/
Website : https://www.landmarkbangkok.com/huntsman-pub
[map latitude=”13.741188″ longitude=”100.553954″ text=”138, The Landmark Bangkok Hotel, Ground Floor, Sukhumwit Road, Khlong Toei, Khet Khlong Toei, Bangkok, 10110, Khwaeng Khlong Toei, Khet Khlong Toei, Krung Thep Maha Nakhon 10110″ height=”300px”]