Dadaocheng
Dadaocheng – ต้าเต้าเฉิง หนึ่งในย่านสุดฮิปที่ปัจจุบัน (ปี 2017) ย่านนี้มีการผสมผสานความฮิปอย่างลงตัวเกิดขึ้นแล้ว ที่สำคัญย่านนี้มีของกินอร่อยที่คนต่อคิวเยอะ มีมุมให้สัมผัสบรรยากาศจีนๆแบบดั้งเดิม มีขนมอร่อยเพียบ และที่สำคัญที่นี่มีความทันสมัยที่ถูกผสมลงไปกับความงามสมัยเก่ารอคุณอยู่ตามเรามา 6 August Journey จะพาไปดูว่าที่นี่มีอะไรบ้าง
[section background_image=”” text_color=”#666666″ background_color=”#eeeeee”][icon type=”fa-google-wallet” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ]การเดินทาง & ที่นี่มีอะไรบ้างที่ห้ามพลาด
การเดินทาง – MRT สถานี Daqiaotou (สายสีเหลือง) ทางออกที่ 1 แล้วลองเปิด Google Map เดินตามมาเรื่อยๆจ้า
ที่นี่มีอะไรที่ห้ามพลาด
ของกิน – ที่คนถึงกับยอมมาต่อคิวเพราะรสชาติแบบนี้สืบทอดกันมาถึง 81 ปีอย่างร้าน Mai Mian Yan Zi – Jinquan Snack ที่คนท้องถิ่นมาต่อคิว ย่านนี้มีร้านชาอร่อยเยอะ ที่นี่มีขนมที่คนญี่ปุ่นถึงกับต้องมากินกันทุกปี
ความชิค – ถนนย่านนี้ควรมาถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่งเพราะมีความเก่าแต่สวยงาม ที่นี่มีงานฝีมือ งานขนมให้เราลองทำ และกำแพงจะมีลวดลายสวยงาม ร้านตกแต่งน่ารักเยอะมาก
ย่านเก่ามีอดีต – ยังมีบางร้านที่คงความโบราณไว้หลายที่ เช่น ร้านขายเครื่องสมุนไพรจีน ผ้าจีนที่ใช้ทำกี่เพ้า ศาลเจ้า ขนม และ ชาโบราณ เดินเล่นกันทั้งวัน[/section]
จุดแรกที่เราจะแวะกันคือร้าน Mai Mian Yan Zi – Jinquan Snack ที่สืบทอดสูตรหมี่น้ำต้มกระดูกเข้มถึง 81 ปี (พิกัด) และเป็นทางผ่านในการเดินไปถึงย่าน ต้าเต้าเฉิง เรามาเจอร้านนี้โดยบังเอิญเพราะถนนตรงนี้มันจะเงียบมาก แต่เห็นแถวยาวๆ เราเลยลองไปต่อดูบ้าง
คนท้องถิ่นมาต่อเยอะมาก และไม่มีภาษาอังกฤษให้แน่ๆ ระหว่างรอคิวเราเลยถ่ายรูปร้านให้เพื่อนชาวไต้หวันดู เขาจึงส่งรีวิวมาให้เราก็แค่ชี้รูปในรีวิวว่าอยากกินอะไรนั่นเอง (รีวิว) ขอบอกเลยว่าของหมดอย่างไว สำหรับอะไรที่อร่อยโดยสิ่งที่เด่นของที่นี่คือ บะหมี่น้ำซุปข้นแบบไม่ต้องปรุง เครื่องในอร่อยมาก และ หมูกรอบ
ที่สำคัญไม่แพงด้วยเราหมดไป 140 บาทได้กินแบบ 2 คน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ถนน Dihua กันต่อเพราะ Dadaocheng จะอยู่บนถนนแห่งนี้ สิ่งที่พบคือย่านนี้ตึกรามบ้านช่องจะเก่า เพราะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เนื่องจากที่นี่เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ของไทเปในสมัยก่อนได้
จุดเริ่มต้นที่เราเข้าใกล้ย่านนี้เลยจะเป็นจุดที่ขายเครื่องเทศ สมุนไพรกันมาก มีขายเป็นแถบเลย บางร้านติดราคา บางร้านไม่ติดราคา แต่แลดูน่ากินหลายอย่าง ดังนั้นใครหาของแห้งกลับไทยก็แวะซื้อที่นี่กันได้
แล้วเราก็เดินมาถึงจุดคึกคัก ที่ถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านค้า ที่เราเหมือนหลงยุคเข้ามาเดิน เพราะตึกราบ้านช่องจะเก่าแต่ชิค และ ถนนจะเป็นอิฐคล้ายๆราวกับว่าเราเดินอยู่ที่ยุโรป และคนก็นิยมมาเดินย่านนี้กันอย่างคึกคักมากด้วย
จุดแรกที่คนล้นออกมาเลยสำหรับ Chen-wey teahouse จุดที่เราสามารถเรียนรู้ความโบราณได้จากที่นี่ เพราะเก่ามาก ที่สำคัญถ้าใครพอฟังภาษาจีนรู้เรื่องจะได้ยินไกด์เล่าให้ฟังความเป็นไปเป็นมา ของโบราณที่อยู่ข้างในโดยวันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ก็ยังเปิดให้เข้า แต่คนจะเยอะมาก
ที่นี่ถูกสร้างโดยไม่ใช้ตะปูสักอัน ทำเราคิดถึงวัดน้ำใสที่ประเทศญี่ปุ่น พระราชวังแห่งนั่นเองก็สร้างโดยไร้ตะปูสักอัน แต่ยังอยู่มาได้จนถึงปัจจุบันนี้เป็นอะไรที่น่าทึ่งสุดๆ จากนั้นเราก็มาเดินเล่นกันต่อ
จะมาเจอร้านๆนึง ที่เขาเปิดให้เราลองทำขนมไหว้พระจันทร์ และ ทานตรงนั้นได้เลยแบบฟรีๆ แต่เราบอกเลยว่าไส้ที่เขาให้เราลองทำอร่อยมาก ถึงกับเดินกลับมาซื้อ กลับบ้าน พร้อมแพกเกิจจิ้งน่ารัก เพิ่งรู้ว่าเขาทำขนมไหว้พระจันทร์กันแบบนี้ก็วันนี้นี่แหละ
ตรงไหนที่มีคนมุง ตรงนั้นจะมีเรา เราก็แวะเข้าไปดูไปชิมทุกร้านจริงๆ แต่ถนนที่นี่ดีอย่างตรงที่เวลาเป็นเสาร์-อาทิตย์มันจะคล้ายถนนคนเดินบ้านเราเลยแหละ มีกิจกรรมให้ทำทั้งถนน อย่างเด็กๆก็จะมีงานศิลปะให้ทำ เขาตั้งโต๊ะกันตรงนั้นเลย และเด็กก็มานั่งทำศิลปะกันอย่างเป็นระเบียบ มีวัฒนธรรมชงชาให้ชม และ ลองดื่ม
ชาที่นี่เขาจะหอม และ แปลกอยู่แล้ว ไม่งั้นชาไข่มุขที่นี่จะดังหรือ !!! ชารสส้มดื่มแล้วก็สดชื่น ที่สำคัญไม่แพงขวดล่ะ 30-40 บาทซื้อดื่มก็สดชื่นไปตลอดทาง จังหวะนั้นเราก็เริ่มมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือที่แท้จริง เพราะจุดนี้เป็นท่าเรือมาก่อนในสมัยโบราณ
ด้วยความที่รัฐบาลไต้หวันอีกนั้นแหละ ได้ทำการสร้างเส้นทางจักรยานโดยมุ่งหวังให้ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวไปในตัวบริเวณนี้จะมีความน่ารักของสิ่งรอบตัวเราไม่ว่าจะเป็นกำแพง เรือต่างๆ ที่สำคัญ Dadaocheng Whaf นั้นมีทางจักรยานให้ปั่นใหญ่มาก แถมวิวดีๆรออยู่ด้วย
ช่วงเวลาเย็นๆ หรือ กลางคืนเราแนะนำให้มาที่นี่เพราะเขาจะมีเรือบริการพาล่องชมแสงสีย่านนี้ โดยราคาโอเค ถ้านึกภาพไม่ออกนึกถึงล่องเรือครูซบนแม่น้ำเจ้าพระยานั้นแหละ บรรยากาศดีใช้ได้เลย
จากนั้นเราก็มุ่งหน้าเดินกลับไปที่สถานีเดิม โดยทางผ่านจะมีร้านที่ต้องแวะ !!! เน้นว่าต้องแวะเพราะร้านนี้บิงซูละมุน คนญี่ปุ่นบินข้ามน้ำข้ามทะเลมากินกันมาก ถึงกับมีภาษาญี่ปุ่นในเมนูเลยก็ว่าได้ ฮิตขนาดไหนคิดดู เราก็มาลองเมนูที่เขา Recommend มาที่ร้าน Summer tree sweet
ที่นี่เขาโด่งดังเรื่องการนำ Almond มาทำเป็นขนมที่อร่อยมาก โดยเมนูยอดฮิตคือ Almond snow ice แต่เราก็กินเมนูง่ายๆธรรมดา มันเหมือนเต้าหูแต่รสชาติแปลกว่า ในน้ำเย็นของเขาทานแล้วสดชื่นดี และไม่เคยกินแบบนี้ที่ไหน แนะนำให้มาลอง คนเข้าร้านนี้ไม่ขาดสายเลย เมนูที่เรากิน 45 NT$ เท่านั้น
ระหว่างทางเดินกลับก็แอบถ่ายรูปร้านน่ารักของถนนแห่งนี้มาให้ชมกัน มีเครื่องสาน มีผ้า มีเซรามิกน่ารัก มีกลิ่นไอของความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาอยู่บนถนนแห่งนี้ด้วย เราว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่านะที่จะมาเดินย่านนี้ เพราะครบทุกอย่าง อาหารการกิน ของน่ารัก ช็อปปิ้งเพลิน บรรยากาศดี คอนเฟิร์ม !!!