หนึ่งในเป้าหมายที่อยากทำในปี 2016 ของเราคือ อ่านหนังสือให้ได้เดือนล่ะเล่ม แล้วตอนนี้ก็มีเวลามาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันแล้วจ้า สำหรับหนังสือเล่มแรกที่อ่านจบไปตั้งแต่เดือน มกราคมที่ผ่านมากับหนังสือที่ชื่อว่า “การลงทุนที่ดีที่สุด สำหรับ มนุษย์เงินเดือน” โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กูรู Value Investment ของเมืองไทย โดยส่วนตัวแล้วเราชอบ การเขียนหนังสือ ของท่านค่ะ เลยตามอ่านเกือบทุกเล่ม เลยอยากมาสรุปให้อ่านกัน สำหรับแนวคิดดีๆของท่าน ขอยกมาให้อ่านบทที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วโปจ้า
[divider style=”solid” height=”4px” color=”#fff700″]ตรวจสอบตัวเองก่อนลงทุน[divider style=”solid” height=”1px” color=”#fff700″]ก่อนลงทุนสิ่งที่ต้องตรวจสอบตัวเองก่อนมีดังนี้
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] เรามีทรัพย์สินสุทธิเท่าไร
ในที่นี่เป็นการประเมินความเสี่ยงให้เราได้คิดค่ะ ถ้าเรามีเงินร้อยล้านพันล้าน ความเสี่ยงในชีวิตอาจไม่มาก การซื้อประกันชีวิตจึงไม่สำคัญ เพราะถ้าเราเป็นอะไรมาที เงินอีกร้อยล้านก็เพียงพอต่อการเป็นมรดกได้ ความเสียงของคนรวยคือ ระบบ ในประเทศที่เปลี่ยนไปเช่น ภาวะสงคราม
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] รายได้จากการทำงาน
แบ่งเป็นสามแบบคือ แบบที่หนึ่ง ถ้ามีรายได้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่น หมอศัลยกรรม เราย่อมสามารถลงทุนในความเสี่ยงสูงได้ แบบที่สอง รายได้ดีแต่ไม่แน่ไม่นอน การลงทุนควรระมัดระวัง แบบที่สาม รายได้ไม่มากแต่มีความมั่นคง สิ่งที่เราควรทำคือ
พยายามอดออม และ กันเงินไว้ลงทุนในหุ้นอย่างสม่ำเสมอ
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] อายุ
ถ้าอายุน้อยๆอยู่มีกำลังหา ลงทุนความเสี่ยงสูงได้ เพราะถ้าพลาดก็ยังหาใหม่ได้ แต่ถ้าอายุ 40-50 แล้วควร Balance
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ค่าใช้จ่ายทั้งในปัจจุบันและในอนาคตที่เราต้องคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
ต้องวางแผนแต่แรกแล้วว่าลูกจะเรียนแบบไหน อนุบาล ยัน จบมหาลัย แล้วต้องใช้เงินเท่าไร นอกจากนั้น ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่เรา และ ตัวเราเองก็สำคัญ ต้องรู้จักวางแผน
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ความรู้และประสบการณ์ในการลงทุน
ถ้าเรามีพื้นฐานทางด้านการคำนวณบ้าง ก็สามารถศึกษาเองได้ แต่ถ้าไม่มีก็ซื้อกองทุนอิงดัชนี SET 50 แต่ตอนนี้ท่านเขียนไว้ดีมากแนะนำให้ลองหาอ่านกัน
[divider style=”solid” height=”4px” color=”#fff700″]นิยามความรวยแบบ VI[divider style=”solid” height=”1px” color=”#fff700″]บทนี้ขอบอกเลยว่าชอบที่สุดค่ะ ที่มามาจาก คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักกิ์ CEO ของ CPALL
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] คนรวยต้องมีเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขในครอบครัว
การที่พ่อแม่สามารถพูดจาหยอกล้อกับลูกอย่างสนุก โดยไม่ต้องมีการวางมาด ถือ เป็นความสุขในครอบครัวอีกแบบที่ เงินไม่สามารถหาซื้อได้ ยิ่งพ่อแม่มีเงิน พ่อแม่ก็ไม่ควร ใช้เงิน เพื่อมาบังคับให้สมาชิกในบ้านปฎิบัติตาม
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ควรมีเวลาให้ครอบครัว ญาติมิตร และ สังคม
ยิ่งคนรวยส่วนใหญ่จะทำงานในระดับสูง ไม่มีเวลาเพราะทำแต่งาน ดังนั้นช่วงเวลาวันเสาร์ และ อาทิตย์ ควรเป็นเวลาที่อุทิศให้ครอบครัว
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ต้องใช้เงินเป็น ไม่ใช่เอาแต่สะสมแต่ปล่อยให้ตัวเองและครอบครัวอยู่อย่างแร้นแค้น
คนรวยนั้นไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรูหราเกินเหตุ แต่ควรใช้เท่าที่มันจะทำให้เรา และ ครอบครัวมีความสุข สะดวกสบายเท่าที่เงินจะซื้อได้
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ต้องรู้จักชืนชมความงามแห่งชีวิตและท่องเที่ยวพักผ่อน
ถ้ามีเงินก็ควรต้องท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ชื่นชมศิลปะวัฒนธรรมโลก การแสดง กีฬา เพื่อเป็น รางวัลของชีวิต
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] จะต้องรู้จักชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น
อย่าอิจฉา ริษยา และ พยายามเปรียบเทียบความมั่งมีกับคนอื่น เพราะ เราจะมีความทุกข์ และ ไม่รู้จักพอ จงเข้าใจพื้นฐานแต่ละคนว่าแตกต่างกัน ทางที่ดีเราควรทำตัวเราให้ดี แล้ว สังคมจะตอบแทนเรากลับมา
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] อีกข้อที่คนเราควรมี และ มีให้มากในสังคบแบบนี้คือ
ควรที่จะต้องเคารพและให้เกียรติคนอื่นเท่าๆ กับที่อยากเห็นคนอื่นให้เกียรติกับตัวเอง
และสุดท้าย เราควรรู้จักแบ่งปัน ให้คนใกล้ตัวเราก่อน แล้ว ค่อยยื่นออกไป
[divider style=”solid” height=”4px” color=”#fff700″]VI กับความสุข[divider style=”solid” height=”1px” color=”#fff700″]เป้าหมายที่สุดของในชีวิตคนเราก็คือ การมีความสุขในชีวิต ซึ่งเงินก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุข ซึ่ง ดร. ก็แชร์ไว้ว่าจะปฎิบัติอย่างไร
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ยีนเป็นสิ่งที่มีบทบาทในการกำหนดความสุขของคนเรา
ดร. นิเวศเล่าให้เห็นภาพว่า คนบางคนมีความสุขได้แม้ไม่ได้มีเงินทองมากมาย เขามีความสุข อารมณ์ดีอยู่เสมอ ไม่ดิ้นรนมากมาย ไม่เครียด ปล่อยวาง ก็เพราะว่ายีนของเขากำหนดให้เขาเป็นแบบนั้น ไม่ได้จะมาจากการอบรมสั่งสอน หรือ สิ่งแวดลอม ในทางตรงกันข้ามคนบางคนกลับมีอารมณ์ร้าย รุนแรง ขี้หงุดหงิด มองโลกในแง่ร้าย แม้มีเงินเหลือเฟือก็มักจะมีความสุขน้อยกว่าคนแบบแรก ดังนั้นแล้ว
คนที่มียีนดีกว่าทางด้านอารมณ์จิตใจและร่างกาย ก็น่าจะมีความสุขมากกว่า
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ความยากจนนั้น จะลดความสุขในชีวิตลง แต่คนที่มีเงินถึงจุดหนึ่งแล้ว เงินที่เพิ่มขึ้นไม่ช่วยให้ความสุขเพิ่มขึ้น
ในที่นี่คือ รู้จักพอ นั้นเอง ซึ่งควรมีเงิน หรือ พอร์ตลงทุนให้มากกว่าที่เราคิดว่าจำเป็นที่จะทำให้มีอิสระภาพทางการเงินสักเท่าตัว นึกง่ายๆ นึกถึงรายจ่ายในอนาคต แล้วเราก็ต้องมีเงินมากกว่ารายจ่ายในอนาคตเป็นเท่าตัว เพื่อความสบายใจ
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] งานที่เราพึงพอใจนั้นมีความสำคัญมากกว่าเงิน
สิ่งที่คนเราต้องการคือ ความสำเร็จที่เกิดจากความพยายาม ไม่ได้เกิดจาก โชคชะตา เช่น ถูกหวย หรือ การพนัน เพราะสิ่งเหล่านี้ผ่านไป 6 เดือน ความสุขที่ได้มาก็ลดลง ต่างจากการพยายามศึกษา และ สร้างความสำเร็จด้วยตัวเอง
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] คนที่มีความคิดแบบอนุรักษ์นิยมนั้นโดยทั่วไปมักจะมีความสุขมากกว่าพวกที่เป็นนักเสรีนิยม
เพราะคนที่เป็นอนุรักษ์นิยมนั้นจะมีสิ่งยึดเหนี่ยว พวกเขาจะมีความศรัทธาต่อ ศาสนา ครอบครัว จิตใจจะไม่ว้าวุ่นเท่ากับนักเสรีนิยม ที่มักจะคิดมาก และ ตั้งคำถามกับสิ่งที่มีอยู่ บ่อยครั้งเกิดความต่อต้านในจิตใจ ความสุขก็น้อยลง
แหล่งความสุขที่ไม่เกี่ยวกับเงินทองนั้นคือ ความศรัทธา ครอบครัว เพื่อน และ งาน
[divider style=”solid” height=”4px” color=”#fff700″]ลงทุนในสุขภาพ[divider style=”solid” height=”1px” color=”#fff700″] การลงทุนสุขภาพในที่นี้คือ การดูแลสุขภาพ กาย และ ใจ ในวันนี้ เพื่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราก็ควร ถนอมรักษา โดยการออกกำลังกาย และ อาหารที่ดี ส่วนเรื่องต้นทุนด้านสุขภาพนั้นจะขึ้นอยู่กับยีนที่เราได้มานั้นเอง
[divider style=”solid” height=”4px” color=”#fff700″]การลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์เงินเดือน[divider style=”solid” height=”1px” color=”#fff700″]ในที่นี่ ดร.นิเวศ พูดถึงสำหรับคนที่คิดว่าตนเองไม่มีความสามารถมากพอที่จะเรียนรู้เทคนิคการลงทุน เลยฝากหลักคิดไว้เรียกว่า แก้ว 3 ประการของการลงทุน
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] เงินลงทุนเริ่มต้น
แก้วดวงนี้ได้มาจากหลายทาง แบบที่นิยมคือ เงินเดือน แก้วใบนี้จะสุกสว่างเมื่อเราอดออม หรือ ใครโชคดีหน่อยก็มีมรดกพ่อแม่มา อยากให้แก้วดวงนี้สุกสว่างมากก็ ต้องรู้จักหามาก และ อดออม
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน
ความสุกสว่างของแก้วดวงนี้อยู่ที่ความสามารถในการวิเคราะห์และลงทุนอย่างถูกต้อง โดยสำหรับผู้ที่ศึกษามีความสามารถแล้ว หุ้นจะสามารถทำให้แก้วสุกสว่าง มากกว่าการที่จะฝากเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ แต่ความสว่างจากหุ้นก็สามารถทำให้แก้วแตกได้ ดังนั้นสำหรับใครที่ยังไม่มีความรู้มากพอขนาดนั้น ซื้อกองทุนรวมที่อิงตามดัชนีจะดีที่สุด
[icon type=”fa-align-left” color=”#999999″ size=”16px”] ระยะเวลาในการลงทุน
ถ้าเราอยู่ในตลาดหุ้นได้นาน ไม่ว่าหุ้นจะถูก หรือ จะแพง แต่เราอยู่แน่วแน่แล้วลองคำนวณดีๆ ระยะเวลา 30 ผลตอบแทนก็สูงกว่าเงินออมปกติเห็นๆ
[section background_image=”” text_color=”#666666″ background_color=”#eeeeee”][col2 width=”20%”]