Sofitel Bangkok Sukhumvit รีวิว – อีกหนึ่งโรงแรมที่ปังมาก ตอนแรกคิดว่าดีแค่ Location แต่พอลองไปใช้บริการจริงๆ มันดีมาก สมราคา สมความเป็นแบรนด์ Amenity แบรนด์ดังมีมาให้ใช้ บริการ Turn down service พร้อม ชาคาโมมายล์ที่หัวเตียง ใส่ใจเหมือนคนในครอบครัว ตามคุณผึ้ง 6 August Journey มาจะไปพักที่นี่กัน
Sofitel Bangkok Sukhumvit
ที่อยู่ : 189 ถนนสุขุมวิท ซอย 13-15 คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม 10110
Website: https://www.sofitel-bangkok-sukhumvit.com/th/
Facebook: https://www.facebook.com/SofitelBKKSukhumvit/
Call: 02-126-9999
Instagram: sofitelbangkoksukhumvit
Line: https://bit.ly/3fNvuYI
[icon type=”fa-map-signs” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] รีวิวนี้มีอะไรบ้าง
- ห้อง Luxury Club Millesime
- Afternoon tea บน คลับเลาจ์
- Rooftop Belga สุดโรแมนติค
- อาหารเช้าบุฟเฟต์
- สระว่ายน้ำ และ Activity อื่นๆ
[tdivider style=”fa-star” color=”#222222″]
[icon type=”fa-bed” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] ห้อง Luxury Club Millesime
คุณผึ้งมา Staycation ที่นี่ด้วยแพ็คเก็จ Belga Club Night เลยได้นอนห้อง Luxury Club Millesime โดยพักห้องนี้สามารถใช้บริการคลับเลาจ์ได้ค่ะซิสสส ในส่วนของห้องนอนคือมาตรฐาน Sofitel โลกจริงๆ
เพราะเตียงนอน และ ชุดเครื่องนอนที่นี่คือ Sofitel Mybed ปลายเตียงนอนจะมีขนม และ ผลไม้วางไว้ให้อย่างน่ารัก และ มีเครื่องชงกาแฟ โต๊ะทำงาน โดยห้องนี้มีขนาด 43 ตร.ม. ใหญ๋เลยค่ะซิสสส
ข้างในจะเป็นห้องน้ำ ที่มี Bath tub และ มีห้องอาบน้ำ และ ห้องน้ำที่แยกโซนเปียก และ แห้งอย่างชัดเจน ความดีงามของห้องน้ำที่นี่คือ ระบบน้ำอุ่น ความแรงของน้ำคืออาบสบายมาก เหนือสิ่งอื่นใด Amenity ที่ใช้คือนัมเบอร์วัน
เพราะ Sofitel บางที่ก็ใช้ Hermes บางที่ใช้ Balmain ส่วนวันที่คุณผึ้งพักได้ใช้ L’Occitant เป็นแบรนด์ที่เราใช้ประจำอยู่แล้ว ความหอมเอย ความชุ่มชื้นที่ผิวเอย ดีงามสุด
ในแพ็คเกจที่ผึ้งซื้อมา สามารถขอ Bubble Bath โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาผสมน้ำอุ่น และ ตีฟองให้ สบายสุดๆ จากนั้นก็เตรียมดื่ม ชาคาโมมายล์ แล้วเข้านอนได้ ที่นี่เขาจัดให้เพื่อความหลับสบาย ดีงามใส่ใจ เริ่ดดดด
[icon type=”fa-coffee” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Afternoon tea บน คลับเลาจ์
ด้วยความที่แพ็คเกจที่เข้าพัก สามารถเข้าคลับได้ด้วย เขาก็มีเวลาจะมาให้ เช่น Afternoon tea (14:00 – 16:00 น.) และ ช่วง Cocktail และ คานาเป้ (17:00 – 19:00 น.) อาจเมากลับห้องได้ค่ะซิสสส
โดยเมนู Afternoon tea จะเป็นโซนให้เราสามารถเดินตักอาหารได้ เลขขอทางโรงแรมจัดเซตน่ารักๆให้หน่อย พร้อมเครื่องดื่มที่สามารถเลือกได้ด้วย อยากทานร้อน ทานเย็น Soft drink มีบริการหมด
ส่วนคานาเป้ยามเย็นที่นี่ขอบอกว่าแซ่บมาก แซ่บไม่ไหว เพราะแต่ละเมนูคือถูกใจคนชอบทานอาหารไทย เช่น ไก่แซ่บ สลัด ลาบไก่ หรือจะเป็นไส้กรอกน่ารักคล้ายไส้กรอกอีสาน เสริฟพร้อมค็อคเทลด้วย
[icon type=”fa-glass” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] Rooftop Belga สุดโรแมนติค
แพ็คเกจ Belga Club Night มาพร้อมกับการที่เราจะสามารถขึ้นมานั่งทานข้าว พร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินได้ โดยเขาจะจัด 3 คอร์สดินเนอร์ให้เรา สามารถเลือกเมนูได้ เป็น Appetise > Main > Dessert
คำเตือน ถ้าอยากนั่งโซน Outdoor ต้องจอง เพราะที่นี่คนเต็มแทบทุกวัน ถ้าไม่จองอาจจะไม่ได้โต๊ะช่วง Prime time แล้วที่นี่คือชิล เห็นพระอาทิตย์ตกดินพร้อมวิวเมือง
ทางโรงแรมมีแถมเบียร์เบลเยี่ยมให้เราด้วย และแน่นอน ความเป็น Belga ก็คือ เราจะได้สัมผัสอาหารสไตล์เบลเยี่ยม เช่น หอยแมลงภู่อบซอสเบียร์ฮูการ์เดน ที่เขาบอกว่าหอยแต่ละที่บนโลกใบนี้จะมีความหวานแตกต่างกันออกไปตามฤดูกาล เขาก็เลือกนำเข้าตามช่วงเวลา
โดยเราสามารถเลือกได้รสชาติได้ 4 รสชาติ ซอสไวน์ขาว / ซอสต้มยำ / ซอสเบียร์ และซอสประจำวัน ที่เชฟจะคิดค้นรสชาติสุดพิเศษให้เราได้ลิ้มลองในแต่ละวัน แต่ทานเพลินมาก เหมือนที่เบลเยี่ยมมาก
ส่วนเมนู Appetiser ที่คุณผึ้งสั่งจะมี รีซอตโต้ เห็ดทรัฟเฟิล และ อาร์ทิซานชีส เพราะไปกัน 2 คนเลยสั่งมา 2 แบบแล้วมาแชร์กันทานกับเพื่อนค่ะซิส อร่อยทั้งคู่ แนะนำให้สั่ง
ในส่วนของ Main Course ทางคุณผึ้งสั่ง Waterzooi, Chef Nico’s way เป็น อกไก่อบซอสไวน์ขาว และเห็ตแชมปิงยองสูตรพิเศษของเชฟนิโค ที่เชฟได้นำอกไก่ไปอบจนเนื้อนุ่มได้ที่ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่คนไม่ชอบทานอกไก่จะต้องหลงรัก
และ Belga Burger เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ เพราะเบอร์เกอร์ของที่นี่มีส่วนผสมของเนื้อแกะและเนื้อออสเตรเลียบด เสิร์ฟพร้อมขนมปังยี่หร่า และซอสมะเขือเทศเข้มข้นสูตรพิเศษของทางร้าน
ตกท้ายด้วยขนมหวานที่นี่ เทใจให้เมนูนี้หมดใจ Belgian Chocolate Mousse เป็นเมนูที่ เสิร์ฟคู่กับเมอแรงค์โกโก้รสเข้มข้น อร่อยมาก ให้ทานคนเดียว 5 ถ้วยก็จะไม่เบื่อ อยากสั่งกลับบ้านมากค่ะซิสสส
[icon type=”fa-cutlery” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] อาหารเช้าบุฟเฟต์
อาหารเช้าที่นี่ทานที่ห้องอาหารวัวล่า เป็นบุฟเฟต์ให้เราสามารถตักทานได้ตามที่อยากทาน โดดเด่นสุดๆยกให้เป็นเมนู Cold Cut คือมีห้องสวยๆ สำหรับเมนูเหล่านี้เลย แล้วตามมาด้วยเมนูไข่ต่างๆ เสริฟตามสั่ง
ที่ชอบอีกอย่างคือ เครื่องดื่ม Green Juice ที่เขาจะมีสูตรผสม ผัก และ ผลไม้ เมื่อทานแล้วรู้สึกเหมือนน้ำบูสเตอร์ขึ้นมาทันที อร่อย สดชื่น ไม่ได้หวานเวอร์ รสชาติ คุณค่าอยู่ครบมาก
[icon type=”fa-modx” color=”#999999″ size=”16px” style=”circle_thin” link=”” new_window=”true” ] สระว่ายน้ำ และ Activity อื่นๆ
สำหรับสระว่ายน้ำที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 9 ถ้าอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้มาตั้งแต่เช้าค่ะซิสส แดดจะไม่แรงจนเกินไป คนจะไม่เยอะ แต่มีเจ้าหน้าที่จัดเตรียมผ้าเช็ดตัวให้เรียบร้อย
นอกจากสระว่ายน้ำแล้ว ชั้น 9 ก็มีสปา ในส่วนของชั้นล่างสุดจะมีร้าน Le Macaron เป็นร้านเทสต์ดีที่สามารถมานั่งจิบชา ทานขนมหวานกันได้ค่ะซิสสส
ทั้งหมดที่เล่ามา บอกเลยประทับใจ และ เชื่อว่าใครหลายคนถ้าได้มีโอกาสมาพักต้องประทับใจมากค่ะซิสสส แนะนำ