เลห์ ลาดัก ตุลาคม ไปเลห์ทั้งทีมันต้องให้ได้ 4 ฤดู (วันที่ 6) | ยืนหนาวสู้หิมะเป็นชั่วโมง

December 5, 2018
628 views
19 mins read

เลห์ ลาดัก ตุลาคม…หนาวทั้งทีต้องเที่ยวให้ได้ 4 ฤดู

เลห์ ลาดัก ตุลาคม – พอพูดถึงเลห์ คนคงจะนึกถึงวิวภูเขา ฟ้าสีฟ้าเดิมๆซ้ำๆ ก่อนผึ้งไปที่นี่ภาพในหัวก็เป็นงี้แหละ จนกระทั่งมาค้นพบช่วงเวลาสุดแสนวิเศษที่แบบ

ไปเจออากาศ -10 องศา ไปขี่อูฐที่ทะเลทรายหนาวๆ ไปเจอใบไม้เปลี่ยนสีสวยจนนึกว่าเกาหลี ไปเจอลมหิมะตีหน้า ทั้งหมดนี้ในทริปเดียว

ค้นพบความหนาวทรมานแบบไม่มีฮีตเตอร์ ค้นพบความอ๊อกซิเจนน้อยแบบพร้อมเหนื่อยได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งหมดมันเป็นประสบการณ์ที่ดี และสุด…จนผึ้งแทบไม่อยากไปไหนอีกถ้าไม่สวยกว่าที่นี่ (<< เลห์วันที่ 5เลห์วันที่ 7>>)

เตรียมตัวยังไง

  • เอกสารที่ควร & ต้องปริ้น : คลิกที่นี่
  • 9 เรื่องที่อยากรีวิวเมื่อไปอินเดียกับ Jet Airways : คลิกที่นี่ (จองตั๋ว)
  • 6 ความเอ็นเตอร์เทรนบนเครื่องบิน Jet Airways ที่ทุกคนทำได้ ฟรี !!! : คลิกที่นี่
  • พิกัด แหล่ง นอนในสนามบินเดลี สบายเวอร์ : คลิกที่นี่
  • จัดกระเป๋าเดินทางสู้ภัยหนาว ทริปนี้เราจัดกระเป๋ายังไง : คลิกที่นี่
  • แลกเงิน แลกที่ไทยอย่าง Superrich บางสาขาต้องโทรแจ้งล่วงหน้า ด้วยความวุ่นวายเราเลยกดเงินสดจากบัตร TMB All free ซึ่งเสียค่ากดเพียง 75 บาทและได้เรตเงินราคาพอๆกับ Superrich เผลอๆบางวันถูกกว่าด้วยจ้า
  • การเดินทางเช่ารถเถอะ (หาเพื่อนรวมตัวกันหาร) หรือ แว๊นมอไซค์ (ไปคนเดียว หรือ 2 คน)
  • รีวิวที่พักทุกคืนที่เราพัก ไว้เอาไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ : คลิกที่นี่
  • รีวิวอาหารสำเร็จรูปที่พกไป อันไหนเวิร์ค !!! : คลิกที่นี่
  • อย่าลืมเตรียมหัวปลั๊กไฟ Universal ไปนะเพราะที่อินเดียหัวคนละแบบกับที่ประเทศไทย
  • อินเตอร์เน็ต ไม่ต้องหาซิมส์ใดๆไปหรอก เพราะที่นี่วันไหนหนาวจัดอินเตอร์เน็ตก็ล่มทั้งเมือง 10  วันนี้เราเล่นเน็ตได้แค่ 30 นาทีเอง !!! แล้วไปเล่นตามร้านอาหาร คาเฟ่ในเลห์ บาซ่า[/section]

ชีวิตที่เลห์ ลาดัก

  • คือที่ไหน : ถ้าใครเคย search แผนที่อินเดียจะไม่เจอที่นี่หรือ แต่เข้าใจแบบนี้ดีกว่าคืออินเดียเขาแบ่งการปกครองเป็นรัฐมีทั้งสิ้น 29 รัฐซึ่งเลห์อยู่ในรัฐ Jammu and Kashmir ซึ่งรัฐนี้มี 3 ภาค (Region) เลห์เป็นจังหวัดที่อยู่ใน Ladakh Region คนไทยอย่างเราจึงรู้จักที่นี่ว่า Leh Ladakh
  • Shopping ไปเลห์ซื้ออะไร จุดไหน ราคาเท่าไร : คลิกที่นี่
  • อาหารที่เลห์ ของดีๆมันก็มี๊ !!! : คลิกที่นี่
  • อากาศที่เลห์ และ ฤดูกาลไปเที่ยว : คลิกที่นี่
  • ภาษา : เป็นเรื่องน่าแปลกเมื่อคนที่เลห์เองจริงๆ เขามีหลากหลายชาติพันธุ์อย่างเห็นได้ชัด บางคนมีเชื้อสายมองโกลก็พูดภาษาเลห์กัน บางคนเชื้อสายปากีสถาน บางคนเชื้อสายอินเดีย โดยรวมพูดภาษาอังกฤษได้
  • ศาสนา : คนที่เลห์ 60% นับถือพระพุทธศาสนาแบบทิเบต (Tibetan Buddhism) ที่คนไทยรู้จักกันดีอย่างองค์ ดาไลลามะ เป็นประมุขของคณะสงฆ์ ไม่ว่าจะขับรถไปที่ไหนเรามักจะเจอผู้คนประดับธงหลายสี หรือ แกว่งกงล้ออธิษฐานโดยภายในจะมีบทสวดมนต์อยู่ข้างใน เขาเชื่อกันวาลม และ การเคลื่อนไหวจะมีการนำสิ่งดีๆเข้ามา
  • Time Zone : GMT+5:30 หรือช้ากว่าเราประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

ทริปนี้ไปไหนมาบ้าง

 

วันที่ 6 ไปไหนบ้าง 

เดินทางทั้งวัน 200 กว่ากิโลจึงไปได้แค่ Leh Main Bazaar : คลิกที่นี่


6th DAY : ฉันหนาวจะตายแล้วจ๊ะพี่จ๋า

เช้ามาเรารีบตื่นแต่เช้าคาดหวังที่จะมาถ่ายรูป แต่มันเช้ามากทำให้อากาศเย็นหนักไปอีก แล้วเราลืมเอาถุงมือออกมาด้วยจ๊ะนายจ๋า มือเราก็โต้อากาศจังๆทำให้แสบมาก และเวลาผ่านไป 1 นาทีรูขุมขนที่มือก็มีเลือดซิบๆ หนาวขนาดนั้นคิดดู !!!

แสงเช้าก็จะประมาณนี้แหละ แสงสาดมาที่หุบเขา และมีสายน้ำไหลผ่าน วันนี้พวกเราต้องรีบออกเดินทางแต่เช้าตรู่เพราะต้องมุ่งหน้ากลับเลห์ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากที่นี่ 200 กว่ากิโลใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงได้

อาหารเช้าก็ไม่ได้กิน แต่พวกเราจะไปแวะกินระหว่างทางกันเอาเองเพื่อประหยัดเวลาด้วย เช้ามาจึงทำได้แค่จิบชา และ ดูลาเดินเล่น

เรานึกถึงตอนเราเด็กๆเลยชอบการ์ตูน วินนี่ เดอะ พู โดยตัวที่เราชอบคือ Eeyore ซึ่งเป็นลาหน้าตาดูง่วง ตัดภาพมาที่ความเป็นจริงลามีเสียงร้องที่เสื่อมมาก 55+ ใครไม่เคยได้ยินแนะนำให้ไปหาฟังกันได้ 

จากนั้นเราก็ขนกระเป๋าน้อยของพวกเราเองลงไปที่รถ ทางลงโรงแรมก็ไม่เหนื่อยเท่าตอนขึ้นแต่ความงามมันก็งามจริงๆเหมือนในรูปแหละ ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งต้นเหมาะกับการถ่ายรูปด้วย

มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น แต่จะไม่แวะเที่ยวเน้นยิงยาวกลับไปเลย วันนี้อากาศก็หนาวขึ้นทุกวัน โดยวันนี้ก็จะผ่านทั้งแม่น้ำ Shyok พร้อมวิวแสงสาด ผ่านทะเลทรายที่ Nubra และผ่าน Diskit แน่นอน

เราเลยแวะทานอาหารร้านเดิมที่คนมาขี่อูฐจะแวะมากินกัน อากาศแบบนี้นอกจาก Lemon Honey Tea ที่เราแนะนำให้ลองแล้ว ขอนำเสนอนมสดซึ่งไม่รู้ว่าเป็นนมอะไรแต่อร่อยดี 55+

นอกจากนั้นพี่ที่ร่วมทริปครั้งนี้ได้สั่ง แกงผักชีส เชื่อไหมว่าดินแดนที่ไกลเมืองขนาดนี้เขายังมีเมนูที่อร่อยอย่าง แกงผักชีส ด้วยนะชีสเป็นแผ่นๆโรยมาเลย เด็ด !!!

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่ Khardung la pass ทางเดิมที่เพิ่มเติมคือหิมะหนา และ ตกใหม่ๆ ลมไม่แรงเป็นพายุเท่าเดิม เราเลยวิ่งลงไปเล่นหิมะกันจ๊ะนายจ๋า

แล้วชีวิตก็พลิกผันเมื่อหิมะตกหนักจริงจังแล้วเต็มถนน รถคันที่เรานั่งจึงต้องจอดเพื่อเอาโซ่คลุมล้อจะช่วยให้รถเราสามารถทรงตัวได้ เปลี่ยนล้อธรรมดาโลกไม่จำจ้า !!!

เมื่อรถมีล้อใหญ่ไป หรือ มีโซ่ใหญ่ไปนี่แหละทำให้ไม่สามารถใส่ได้ ใส่ไม่ได้คนขับก็หาเหล็กมาตีโครงรถให้มันมีเนื้อที่ให้สามาถใส่โซ่ได้ ทำไปทำมาเป็นชั่วโมง ที่ต้องออกมายืนนอกรถท่ามกลางความหนาวชิบ !!!

จนสุดท้ายก็เจอคนขับรถคันอื่นมีเหล็กมีอุปกรณ์มาช่วยกินเวลาไปชั่วโมงกว่า ในใจนี่เหน็บหนาวแล้ว แต่ร่างกายจะตายแล้ว 55+ แล้วนางก็ขับไปได้ 3 นาทีโซ่ก็ขูดกับโครงรถจนรำคาญนางก็ลงไปถอดโซ่ออก เชี้ย !!!! 

นี่คุณเสียเวลาชั่วโมงกว่าเปลี่ยนมัน แล้วก็เอาออกเมื่อเวลาผ่านไป 3 นาทีหรอ ? เออ..ไม่รู้จะจัดการความรู้สึกตอนนี้ยังไงดี 55+ ขำทั้งน้ำตาจ้ากว่าจะถึงที่พักในตัวเมือง สะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูกเลยไปเดินเล่นที่ Leh Main Bazaar กัน

แล้วเราก็ค้นพบขุมทรัพของเลห์ ลาดัก นึกว่าต้องทนทุกข์กินไข่ทุกวันแล้วเมื่อช่วงเวลาเย็นของ Leh Main Bazaar จะมีควัน และผู้คนมามุงกันเยอะมากเราก็ไม่พลาดที่จะไปต่อคิวบ้าง และเดินเข้าไปถามพ่อค้าสุดหล่อว่านี่คืออะไร

เลห์ ซื้ออะไร เนื้อย่าง

นางบอกว่ามันคือ Lamb Kabab (วิธีการทำ) ซึ่งเขาหมักมาแล้วที่บ้านแต่มาย่างกันที่นี่ โดยมีให้เลือกกินเป็นเนื้อไก่ เนื้อแกะ เนื้อแพะ เป็นเมนูที่สุดยอดจริงๆคือแบบ เราให้มันเป็นที่สุดของทริปเลย 55+ จากนั้นเราก็ไปนั่งกินโกโก้หลบภัยหนาวที่ร้าน Brazil Cafe จบวันไปแบบหนาวๆ เลห์วันที่ 7 >>

เลห์ ซื้ออะไร Brazil Cafe

Khun Peung (6 August Journey)

6 August Journey เป็นผู้หญิงสาย IT ที่ชอบท่องเที่ยว และ ชอบการ Staycation เป็นชีวิตจิตใจ รวมทั้งยังชอบลิ้มลอง Hotel Dining + Omakase โดยเน้นให้ข้อมูลที่ละเอียดสำหรับทุกคนไปตามรอยได้